พระสุเมธมังคลาจารย์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
[แก้] พระสุเมธมังคลาจารย์ (อมร อมรปัญโญ)
พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณสุเมธมังคลาจารย์ (อมร อมรปัญโญ) เดิมชื่อ สำลี
เป็นบุตรของนายโท้และนางโล่ สกุลเดิมฤกษ์นิยม ภายหลังได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น อมร
เกิดเมื่อวันที่26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2453 ณ บ้านกระทุ่ม หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 4 คน คือ ปุ่น สำลี ทองสุข และเกษม ตามลำดับ
บรรพชา
24 พฤษภาคม พ.ศ.2468 ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
พระธรรมวโรดม (จ่าย) เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบท
21 มิถุนายน พ.ศ.2474 วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
โดยมี พระธรรมโกศาจารย์ (ปลด กิตติโสภณมหาเถระ)เป็นพระอุปัชฌาย์
มี พระสรภาณี เป็นพระกรรมวาจารย์
มี พระศรีสมโพธิ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาว่า อมรปญฺโญ
การศึกษา
- พ.ศ.2462-2465 เรียนระดับประถมศึกษา ณ โรงเรียนวัดใบบัวบก ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จบชั้น ป.3
- พ.ศ.2466 ลงไปอยู่กรุงเทพฯ พักอาศัยบ้านอาหลวงศรีอมร ข้างวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เรียนบาลีมูลฃกัจจายนะ ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
- พ.ศ.2467 เรียนบาลีไวยากรณ์
- พ.ศ.2468 อายุ 15 ปี บรรพชาเป็นสามเณร เรียนบาลีธรรมบท
- พ.ศ.2470 อายุ 17 ปี สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค และนักธรรมชั้นตรี
- พ.ศ.2472 อายุ 19 ปี สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค และนักธรรมชั้นโท
- พ.ศ.2473 อายุ 20 ปี สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และนักธรรมชั้นเอก
- พ.ศ.2475 อายุ 22 ปี สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค
- พ.ศ.2478 อายุ 25 ปี สอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค
สมณศักดิ์
- พ.ศ.2489 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระอมรเมธี และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร
พระอารามหลวงชั้นเอก จังหวัดลำพูน - พ.ศ.2495 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระราชสุธี
- พ.ศ.2500 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระเทพมุนี
- พ.ศ.2504 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระธรรมโมลี
- พ.ศ.2532 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นรองสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นหิรัณยบัฎที่ พระสุเมธมังคลาจารย์
หน้าที่การงาน
- พ.ศ.2473-2480 เป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์ ณ วัดเบญจมบพิตร
- พ.ศ.2481 เป็นครูสอนบาลีชั้น ประโยค 4 ,นักธรรมเอก ,ภาษาอังกฤษและวิชาการแต่งคำประพันธ์ ณ สำนักเรียนวัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน
- พ.ศ.2489 เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญชัย
- พ.ศ.2490 เป็นพระอุปัชฌาย์
- พ.ศ.2490-2500 เป็นเจ้าคณะตรวจการภาค 4
- พ.ศ.2501-2505 เป็นเจ้าคณะตรวจการภาค 5 ปกครอง 8 จังหวัดภาคเหนือ
(แพร่ น่าน ลำปาง เชียงราย ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และอุตรดิตถ์)
- พ.ศ.2508-2528 เป็นเจ้าคณะภาค 7
- พ.ศ.2516 เป็นหัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ 4
ผลงานด้านสาธารณูปการ
1.บูรณะองค์พระบรมธาตุเจ้าหริภุญชัย โดยการปิดทองเหลืออร่ามทั้งองค์
2.บูรณะพระเจดีย์โบราณ 2 องค์ ในวัดพระธาตุหริภุญชัย โดยการตกแต่งให้สง่างามตามสภาพเดิม ทั้งนี้โดยความร่วมมือของกรมศิลปากร และหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบ
3. บูรณะปฎิสังงขรณ์และก่อสร้างพระวิหารและหอพระพุทธรูปต่างๆ ในวัดพระธาตุหริภุญชัย เช่น
3.1จัดให้มีการเขียนภาพจิตรกรรมบนฝาผนังพระวิหารหลวง โดยใช้ช่างฝีมือพื้นเมือง และประพันธ์คำบรรยายประกอบภาพด้วยตนเอง
3.2 รื้อพระวิหารและหอพระพุทธรูปเก่าี่ชำรุดทรุดโทรม และก่อสร้างขึ้นใหม่ เช่น วิหารพระเจ้าละโว้ วิหารพระพุทธ หอพระนอน หอพระเจ้ากลักเกลือ หอพระเจ้าพันตน และหอพระพุทธบาท เป็นต้น
3.3 บูรณะพระอุโบสถและศาลาบาตร ที่รายรอบอาณาบริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัยชั้นใน
3.4 บูรณะซ่อมแซมพระพุทธรูปต่างๆ ซึ่งเป็นของเก่าจำนวน 84 องค์
3.5 บูรณะหอพระสังขจาย
4.ก่อสร้างอาคารต่างๆทั้งในส่วนที่เป็นโรงเรียนเมธีวุฒิกร และสำนักเรียนหอปริยัติศึกษา
5.จัดตั้งสำนักปฎิบัติธรรม"เชตวันธรรมาราม" ซึ่งเดิมเป็นวัดร้าง อยู่ในตำบลเหมืองจี้ อำเภอเมืองลำพูน
ผลงานด้านการจัดการศึกษา
1. ทางคดีโลกและคดีธรรม ได้จัดตั้งโรงเรียนเมธีวุฒิกรขึ้นในวัดพระธาตุหริภุญชัย ตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ
และประกาศขอสังฆมนตรีวาการองค์การศึกษา พ.ศ.2488 เรื่อง โรงเรียนราษฎร์ของวัด เพื่อเปิดโอกาสให้พระภิกษุสามเณร และกุลบุตร
ได้ศึกษาทั้งคดีโลกและคดีธรรม ควบคู่กัน
2. ทางปริยัติธรรม ได้จัดตั้งโรงเรียนหอปริยัติศึกษาขึ้นที่คณะสะดือเมือง วัดพระธาตุหริภุญชัย เพื่อให้พระภิกษุสามเณรเรียนนักธรรมและบาลีโดยเฉพาะ
ผลงานด้านการเผยแพร่
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระสุเมธมังคลาจารย์ มีคุณวุฒิถึงเปรียญธรรม 7 ประโยค ได้ศึกษาปฎิบัติตามพระคัมภีร์อย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน
บทบาทและหน้าที่ของท่าน นอกจากสอนหนังสือแล้ว ก็คือ การเทศนาปาฐกถาธรรม อบรมสั่งสอนประชาชนทั้งปริยัติและปฎิบัติ ท่านได้ออกจาริก
ไปตามถิ่นทุรกันดารตั้งแต่ยังไม่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในตำแหน่งเผยแพร่โดยตรง จนกระั่งมีการตั้งกองพระธรรมทูตขึ้น
ท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพระธรรมทูต ได้ออกจากเทศนาและอบรมศีลธรรมในเขตรับผิดชอบ 8 จังหวัด ภาคเหนือ เป็นประจำทุกปี
ผลงานด้านวรรณกรรม
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระสุเมธมังคลาจารย์ เป็นผู้มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงในด้านการขีดเขียน สนใจใฝ่รู้และฝึกฝนตนเองทางการประพันธ์
ตั้งแต่เยาวัย มีผลงานทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ออกเผยแพร่เป็นประจำ เช่น มาฆบูชา คำประพันธ์ สุภาษิตวิทยุ และบทความต่างๆ เป็นต้น
เป็นเรื่องยาวซึ่งเด่นที่สุดคือ ล่องแก่งโขงนามแฝงเท่าที่ค้นพบมี 3 นาม คือ อมระอมร เทพไท ศรีวรวิชัยะ และ มหาธรรมาภิรมย์
มรณกาล
5ฯ 3 ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2533 เวลา 08.20 น. พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณสุเมธมังคลาจารย์ ก็ถึงแก่มรณภาพ
ด้วยโรคหัวใจวาย สิริรวมอายุได้ 79 ปี 8 เดือน 19 วัน
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์รับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
พร้อมทั้งพระราชทานโกศ เครื่องประกอบเกียรติยศ พวงมาลาตั้งประดับหน้าโกศ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ออกเมรุพระราชทาน
และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานเพลิงศพ ณ สุสานบ้านหลวย อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
อ้างอิงจาก : โรงเรียนเมธีวุฒิกร