คดีมโนสาเร่
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สารบัญ |
[แก้] คดีมโนสาเร่
ปกติแล้วการดำเนินคดีทั่วไปในศาลควรให้ทนายความเป็นตัวแทนจัดการคดีแทนโจทก์หรือจำเลยเพื่อความรอบคอบในการเตรียมคดีเนื่องจากกฎหมายมีความซับซ้อนเกินกว่าที่เจ้าของคดีจะทำด้วยตัวเองซึ่งอาจทำให้คดีไม่สมบูรณ์และพ่ายแพ้ได้ แต่กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งกำหนดวิธีพิจารณาคดีเล็กๆน้อยๆซึ่งไม่ยุ่งยากในการตัดสินไว้เป็นการเฉพาะ โดยลดขั้นตอนการทำคดีลง อีกทั้งยังยอมให้ผู้เสียหายฟ้องร้องคดีด้วยตัวเองและทำด้วยวาจาก็ได้ ศาลจะช่วยดำเนินขั้นตอนการพิจารณาและตัดสินคดี อันทำให้คดีพิพาทเสร็จสิ้นไปอย่างเร็ว เราเรียกว่า วิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่ คำว่า มโนสาเร่ ในพจนานุกรมไทยให้ความหมายว่า เบ็ดเตล็ด เล็กๆน้อยๆ กระจุกกระจิก ดังนั้น คดีมโนสาเร่ จึงหมายถึง คดีเล็กน้อย กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งกำหนดหลักเกณฑ์ว่าคดีแบบไหนจึงเรียกว่าเป็นคดีมโนสาเร่ และศาลต้องดำเนินคดีให้จบสิ้นเร็วที่สุดโดยยังต้องให้ความยุติธรรมแก่คู่ความด้วย
[แก้] ลักษณะของคดีมโนสาเร่
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 189 บัญญัติว่า คดีมโนสาเร่ คือ
- คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
- คดีฟ้องขับไล่บุคคลใดๆออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าหรืออาจให้เช่าได้ในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสี่พันบาท หรือไม่เกินจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
ตามหลักกฎหมายข้างต้นจักเห็นว่า คดีมโนสาเร่นั้นมีลักษณะคดีที่กว้างพอควรและยังต้องเน้นจำนวนเงินที่พิพาทกันอีกด้วย ตัวอย่างคดีที่อาจอยู่ในหลักดังกล่าวได้ เช่น คดีขับไล่ผู้เช่าตามสัญญาเช่า หรือ คดีเรียกเงินคืนตามสัญญาจ้างพี่เลี้ยงเด็ก หรือ คดีผิดสัญญาซ่อมบ้าน เป็นต้น
[แก้] วิธีฟ้องคดี
โจทก์อาจยื่นคำฟ้องเป็นหนังสือหรือมาแถลงข้อหาด้วยวาจาต่อศาลก็ได้ กฎหมายมิได้บังคับให้ต้องมีทนายความด้วย โดยศาลจะช่วยบันทึกรายการแห่งข้อหา อ่านให้ฟัง แล้วให้โจทก์ลงลายมือชื่อไว้ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลโดยคิดเป็นจำนวนเท่ากับจำนวนค่าขึ้นศาลที่เรียกเก็บในคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ซึ่งมีอัตราแน่นอนที่ราชการกำหนดไว้ ปัจจุบันนี้จะอยู่ที่เงินสองร้อยบาท หรือค่าธรรมเนียมอื่นอีกเล็กน้อย นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีที่ไม่มากเลย
[แก้] เขตอำนาจศาลในการฟ้องคดี
โจทก์ต้องฟ้องคดีต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล หรือ ต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลไม่ว่าจำเลยจะมีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรหรือไม่ ดังนั้น หากพิพาทกับจำเลยที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนต้องยื่นฟ้องต่อศาลในเขตที่ห้างร้านนั้นตั้งอยู่ การฟ้องบุคคลต้องทำที่ศาลซึ่งจำเลยอาศัยและมีชื่อในทะเบียนบ้าน ส่วนการพิพาทเรื่องเช็ค ต้องยื่นต่อศาลที่ธนาคารซึ่งปฏิเสธการชำระหนี้ตามเช็คตั้งอยู่ ทนายความหรือเจ้าหน้าที่ของศาลใกล้บ้านจะให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับคำฟ้องของท่านได้
[แก้] ขั้นตอนพิจารณาคดีโดยสังเขป
หลักการพิจารณาคดีประเภทนี้เน้นความรวดเร็วและยุติธรรม จึงลดขั้นตอนพิจารณาคดีลงมาก โดยกำหนดวันนัดพิจารณาให้คู่ความมาศาลเพื่อไกล่เกลี่ย ให้การ หรือสืบพยานในวันเดียวกันได้ หากโจทก์ไม่มา ศาลจะมีคำสั่งจำหน่ายคดี ส่วนจำเลยที่ละเลยไม่มาตามนัด ศาลจะพิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาคดีได้เลย จำเลยเลือกให้การด้วยวาจาหรือหนังสือก็ได้ ศาลมีอำนาจเรียกพยานหลักฐานมาสืบได้เองตามที่เห็นสมควรแล้วยังซักถามพยานเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในคดี แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นอ้างก็ตาม โดยคู่ความไม่เสียสิทธิในการซักถามพยานด้วย อีกทั้งศาลยังเป็นผู้บันทึกคำฟ้องหรือคำให้การ อันเป็นการช่วยเหลือคนทั่วไปซึ่งฟ้องคดีเองอย่างมาก โดยเจ้าของคดีเพียงนำเสนอพยานเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีเท่านั้น กฎหมายกำหนดชัดให้ศาลต้องนั่งพิจารณาคดีติดต่อกันไปโดยไม่ต้องเลื่อนและมีอำนาจออกคำสั่งหรือคำพิพากษาด้วยวาจา จึงสามารถยุติคดีได้เร็ว
[แก้] ลักษณะคดีพิเศษที่พิจารณาแบบรวบรัดอย่างคดีมโนสาเร่
นอกเหนือจากคดีมโนสาเร่ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ต้องพิจารณาเร็วและให้ความยุติธรรมแล้ว บางคดีที่อาจมีทุนทรัพย์สูงเกินกว่าจะเป็นคดีมโนสาเร่ แต่เป็นคดีที่มีหลักฐานชัดเจนและง่ายต่อการตัดสินคดี ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรียกคดีประเภทนี้ว่า คดีสามัญไม่มีข้อยุ่งยาก โดยยอมให้นำวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่มาใช้เพื่อความรวดเร็ว จึงต้องกำหนดลักษณะคดีเป็นพิเศษไว้อย่างเคร่งครัดในมาตรา 196 บัญญัติว่า "คดีสามัญซึ่งโจทก์ฟ้องเพียงขอให้ชำระเงินจำนวนแน่นอนตามตั๋วเงินซึ่งการรับรองหรือการชำระเงินตามตั๋วเงินนั้นได้ถูกปฏิเสธ หรือตามสัญญาเป็นหนังสือซึ่งปรากฏในเบื้องต้นว่าเป็นสัญญาอันแท้จริงมีความสมบูรณ์และบังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์จะยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลพร้อมกับคำฟ้องขอให้ศาลพิจารณาคดีนั้นโดยรวบรัดก็ได้" ถ้าศาลเห็นว่าเป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยาก ไม่ว่าโจทก์จะได้ยื่นคำขอไว้หรือไม่ ให้ศาลมีคำสั่งให้นำวิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่มาใช้ได้ องค์ประกอบของคดีประเภทนี้ต้องเป็นการฟ้องให้ชำระเงินตามตั๋วเงินชนิดต่างๆหรือตามสัญญาที่สมบูรณ์ เช่น สัญญากู้เงินต้องสมบูรณ์และใช้บังคับกันได้ตามกฎหมาย แต่ลูกหนี้เบี้ยวไม่จ่ายคืน เป็นต้น ตัวอย่างคดีที่อาจใช้หลักนี้ได้ เช่น คดีฟ้องเรียกเงินตามเช็คที่มีมูลหนี้สมบูรณ์ คดีหนี้บัตรเครดิต หรือ คดีผิดสัญญาเช่าซื้อหรือสัญญากู้เงิน เป็นต้น ทั้งนี้ ศาลสามารถพิจารณาได้เองว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีไม่มีข้อยุ่งยากหรือไม่ โดยไม่จำต้องมีฝ่ายใดร้องขอก่อนก็ได้ สิ่งควรรู้เบื้องต้นก่อนการฟ้องคดีประเภทนี้ คือ ท่านต้องศึกษาเงื่อนไขของคดี ตรวจสอบหลักฐานให้ครบถ้วน และมีเวลามากพอในการไปตามนัดพิจารณาของศาลทุกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ศาลพิจารณาคดีได้รวดเร็ว ดังนั้น การเตรียมคดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การดำเนินคดีมโนสาเร่หรือคดีสามัญไม่มีข้อยุ่งยากนั้นจะฟ้องโดยโจทก์เจ้าของคดีเองหรือทำโดยทนายความก็ได้ ท่านต้องพิจารณาก่อนว่า มีความมั่นใจหรือพร้อมจะดำเนินคดีในศาลด้วยตัวเองหรือไม่ มิฉะนั้น ควรมอบให้ทนายความจัดการแทนเพื่อความสมบูรณ์ของคดี ทั้งนี้พึงมั่นใจได้ว่า ศาลมีความพร้อมทำการพิจารณาคดีโดยรวดเร็วและจะมอบความยุติธรรมให้ทุกคนที่มาศาลด้วยใจสุจริตเสมอ