คดีลอบปลงพระชนม์ ร.8
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
 มีการแนะนำว่า บทความนี้น่าจะรวมเข้ากับ เหตุการณ์สวรรคตของรัชกาลที่ 8 (อภิปราย) |
 |
คดีลอบปลงพระชนม์ ร.8 ยังไม่ได้รับการจัดหมวดหมู่ คุณช่วยเราได้ด้วยการใส่หมวดหมู่ที่เหมาะสมสำหรับบทความนี้ ดูเพิ่มที่ การจัดหมวดหมู่ โครงการจัดหมวดหมู่ |
ในศตวรรษนี้เห็นจะยอมรับกันว่า ไม่มีคดีใดจะยิ่งใหญ่และสะเทือนขวัญชาวไทยเท่าคดีนี้ นั่นคือคดีลอบปลงประชนม์ ร.8 ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและเหตุการณ์เป็นเช่นไร
[แก้] เหตุการณ์วันมหาวิปโยค
เกิดขึ้นวันที่ 9 มิถุนายน 2489 เวลา 9.20 น. ซึ่งมีบุคคลอยู่บริเวณพระที่นั่งชั้นบน ซึ่งมีบุคคลอยู่ 8 คนด้วยกัน 1.ในหลวงอานันฯ (บรรทมอยู่ในห้องของพระองค์) 2.นายชิต สิงหเสนี (นั่งอยู่หน้าประตูห้องแต่งพระองค์) 3.นายบุศย์ปัทมศริน (นั่งอยู่หน้าประตูห้องแต่งพระองค์) 4.นายฉลาด เทียมงามสัจ (อยู่ห้องเสวยมุขพระที่นั่ง) 5.นางสาวจรู ตะละภัฏ (อยู่ในห้องสมเด็จพระบรมราชชนนี) 6.พระพี่เล้ยงเนี่ยง (อยู่ห้องสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ) 7.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ (อยู่ห้องเครื่องเล่น) 8.สมเด็จพระบรมราชชนนี (อยู่ในห้องพระบรรทม)
หลังจากเวลา 9.20 น. ไม่นานก็เกิดข่าวสะพัดออกมาว่า "ในหลวงตายแล้ว มีคนยิงในหลวง...มีคนฆ่าในหลวง.." ข่าวร้ายใหญ่หลวงเช่นนี้ทำให้คนไทยช๊อกทั้งประเทศแล้วข่วก็เป็นจริงพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 ต้องปืนที่พระนลาฏเสด็จสวรรคตทันทีบนแท่นบรรทมภายในพระที่นั่งบรมพิมานพระบรมมหาราชวัง มีการสืบสวนหาตัวคนร้ายอย่างดุเดือดการสืบสวนโดยย่อได้ความว่า คืนเกิดเหตุ นายบุศย์ ปัทมศรินมหาดเล้กคนเข้าเวรรับใช้ ในหลวงหน้าห้องพระบรรทม มี นายชิต สงหเสนี มหาดเล้ก เข้ามาหานายบุศย์ฯ ด้วยอยู่ห่างจากพระที่บรรทมประมาณ10 เมตร เสียงปืนดังในห้องพระบรรทม 1 นัด นายชิตฯ วิ่งเข้าไปในห้องพระบรม บายบุศย์ฯ นั่งอยู่ที่เดิม นายชิตฯเห็นพระองค์อยู่บนพระเเท่นมีพระโลหิต นายชิตฯวิ่งออกมาจากห้องพระบรรทม นายบุศย์ ก็วิ่งตาย นายชิตฯ ทูลสมเด็จพระราชชนนี ซึ่งอยู่ในห้องอีกห้องหนึ่งซึ่งกำลังแต่งพระองค์อยู่ว่า นายหลวงยิงพระองค์เอง สมเด็จพระราชชนนี ทรงร้องกรี๊ดทรงกันแสงวิ่งไปที่ห้องบรรทมของพระเจ้าอยู่หัว ต่อมาก็มี7.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ เสด็จตายเข้ามาทรงเห็นพระเจ้าอยู่หัวอานันฯ บรรทมหงายพระเศียรและพระเขนยเป้นปรกติ พระโลหิตไหลมีปืนสั้นกระบอกหนึ่งวางอยู่ใกล้พระกรซ้าย ปืนขนาด11 มม. หรือที่เรียกกันว่าปืน U.S.Army จากการตรวจสอบบาดแผลพบลูกกรุสินปืนขนาด 11 มม. ลูกเดียวที่พระเศรียร กระสุนเข้าทางพระนลาฏทะลุออกทางเศียรเหนือท้ายทอย กรุสุนทะเลพระเขนยไปฝันอยู่พระที่ แผลเกิดจากการยิงระยะไม่เกิน 5 เซนติเมตร
[แก้] การสืบสวนสอบสวนหาคนร้าย
พันเอกพระยาวิชิต สรศาสตร์ ออกสืบหาไอ้ฆาตกรโหด..ได้ความจากนางน้อม อนุภรรยาเล่าว่า นายปรีดี (พยมยงค์)เป้นคนต้นคิด เรือเกิกวัชรชัย (คนสนิทของนายปรีดีฯ) เอาปืนไปส่งให้นายชิตยิง...ได้ค่าจ้างคนละ 200,000 บาท พันเอกพระยาวิชิตฯ เลยพานางน้อมไปเรียนต่อ พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ต่อมาพันเอกพระยาวิชิตฯ กับนางน้อม ก็ถูกตำรวจดำเนินคดี ฐานกบฏและหมิ่นประมาท นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุริษอาวุโสของไทย ส่วนนายเฉลียว ปทุมรส นั้นเป็นคนสนิทชิดชอบของนายปรีดี พนมยงค์เป็นรองเลขาธิการสำนักพระราชวัง เคยมีตำแหน่งราชเลขานุการในพระองค์ นายเฉลียวฯ มีฐานะผู้บังคับบัญชาของนายชิต และนายบุศย์ (ใครมีเวลาก็ต่อให้หน่อยนะเราต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ)
