บริทนีย์ สเปียร์ส
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บริทนีย์ สเปียร์ส | ||
---|---|---|
![]() ภาพจากมิวสิกวิดีโอเพลง Baby One More Time
|
||
ข้อมูลพื้นฐาน | ||
ชื่อจริง | Britney Jean Spears | |
วันเกิด | 2 ธันวาคม ค.ศ. 1981 | |
แนวเพลง | ป็อป | |
อาชีพ | นักร้อง,นักแสดง,นักเต้น,นักเขียน,นักแต่งเพลง | |
ปี | ค.ศ. 1995 - 1997 (งานก่อนออกเดี่ยว) ค.ศ. 1998 - ปัจจุบัน (ผลงานเดี่ยว) |
|
ค่าย | Jive | |
เว็บไซต์ | britney.com |
บริทนีย์ สเปียร์ส (Britney Spears หรือชื่อเต็มว่า Britney Jean Spears)เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1981 เป็นนักร้องแนวป็อบชาวอเมริกัน เธอมีเพลงฮิตอย่างเพลง "...Baby One More Time,Oops!... I did it agains,I'm a slave 4 you และ toxic เป็นต้น
สารบัญ |
ประวัติ
บริทนีย์ เกิดใน McComb, Mississippi โตที่ Southern Baptist ใน Kentwood รัฐหลุยเซียน่า
เมื่ออายุ 8 ขวบ ได้เดินทางไปแอตแลนต้า เพื่อคัดตัวเข้าร่วม มิคกี้ เม้าส์ คลับ ซึ่งก็เข้าถึงรอบสุดท้าย แต่กลับถูกคัดออก เนื่องจากอายุน้อยเกินไป อย่างไรก็ดี โปรดิวเซอร์ แนะนำให้มารดา พาเธอไปนิวยอร์ก ให้กับเอเจ่นต์ 3 ปีต่อมา บริทนีย์อยู่ที่ศูนย์เต้นรำนอกบรอดเวย์ กับที่โรงเรียนการแสดงระดับอาชีพ ในนิวยอร์ก เธอเริ่มมีงานโฆษณาหลายเรื่อง และยังได้แสดงละครบรอดเวย์เรื่อง Ruthless บริทนีย์กลับเข้าหา มิคกี้ เม้าส์ คลับ อีกครั้ง คราวนี้มิคกี้ เม้าส์ คลับ รับเธอ หลังจากรายการยุบตัวไป เธอได้เริ่มทำเดโม่เทป ตอนปี 1997 เธอได้ส่งให้ Jive Records เธอได้เซ็นสัญญา ต่อมาก็ได้เปิดคอนเสิร์ตให้ 'N Sync
บริทนีย์ ได้ร่วมงานกับ แม็กซ์ มาร์ติน โปรดิวเซอร์จากสวีเดนที่สร้างชื่อให้กับแบ็คสตรีท บอยส์และ เอริค ฟอสเตอร์ ไวต์ ที่เคยร่วมงานกับ วิทนีย์ ฮูสตัน มาแล้ว เพลงแรกที่เริ่มบันทึกเสียงกันคือ Baby One More Time
ในเดือนพฤศจิกายน 1998 บริทนีย์ นำซิงเกิ้ลแรก Baby One More Time ขึ้นถึงอันดับ 1 ในอเมริกา สัปดาห์เดียวกับที่อัลบั้มแรกของเธอติดอันดับที่ 1 ซึ่งซิงเกิ้ลนี้เป้นซิงเกิ้ลที่ทำให้เธอ กลายเป้นที่รู้จักไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเราด้วยย หลายคนอาจจะคิดว่าเธอไม่เคยมาประเทศไทย แต่หารู้ไม่ เมื่อประมาณ 8 ปีก่อนในอัลบั้มแรกของเธอ เธอมาโปรโมตอัลบั้มที่ประเทศไทยของเราด้วย
ในอัลบั้มชุดนี้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ถึง 9 รางวัล ซึ่งมากเป็นประวัติศาสตร์นักร้องหน้าใหม่ นอกจากนั้นยังกวาดรางวัล Best Female Artist, Best Breakthrough Act, Best Pop Act และ Best Song จากงานเอ็มทีวี ยุโรป มิวสิก อวอร์ดสที่ดับลิน เธอก็กลับเข้าสตูดิโอในช่วงฤดูร้อนปี 1999 เพื่อบันทึกเสียงอัลบั้มชุดใหม่
ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มชุดที่ 2 "Oops!... I Did It Again" ติดท็อบเท็นในอเมริกา ส่วนตัวอัลบั้มขายได้อันดับ 1 สัปดาห์แรกสัปดาห์เดียวขายได้ถึง 1.3 ล้านหน่วย ต่อมา "stronger" สามารถบอกความแตกต่างระหว่างเพลง baby one more timeได้อย่างลงตัว
เดือนพฤศจิกายน 2001 เธอออกอัลบั้มชุดที่ 3 "Britney" เปิดตัวที่อันดับ 1 ในอเมริกาโดยยอดขายในสัปดาห์แรกคือ 1,041,000 แผ่น มีซิงเกิ้ลแรกคือ "I'm a Slave 4 U" ที่ The Neptunes มาช่วยแต่งและโปรดิวซ์ให้ กุมภาพันธ์ 2002 เธอได้แสดงนำในหนังเรื่อง Crossroads เดือนถัดมาเธอได้เลิกกับแฟนหนุ่มจัสติน ทิมเบอร์เลค
เธอได้ร่วมแสดงในงาน เอ็มทีวี วีดีโอ มิวสิก อวอร์ดส ร่วมกับมาดอนน่า และ คริสติน่า อากีเลร่า ในเพลง "Like a Virgin" ซึ่งเธอได้จูบกับมาดอนน่า สร้างความตะลึงให้คนทั้งโลก
พฤศจิกายน 2003 เธอได้ออกอัลบั้มชุดที่ 4 "In the Zone" แนวเพลงมีการเพิ่ม synthpop มากขึ้น ยังได้ศิลปินชื่อดังอย่าง Moby และ R. Kelly มาช่วยแต่งเพลงด้วย In the Zone ขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาในสัปดาห์แรกด้วยยอดขายมากกว่า 909,000 แผ่น ทำให้เธอเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่มีการเปิดตัวเข้าชาร์ทที่อันดับ1 ถึง 4 อัลบั้ม อัลบั้มชุดนี้เธอได้ทำงานร่วมกับมาดอนน่าในเพลง "Me Against the Music" ซึ่งดังถล่มทลาย สามารถติดอยู่บนชาร์ต TRL เป็นเวลากว่า 9 สัปดาห์นับว่าเป็นการทุบสถิติต่างๆ อย่างสิ้นเชิง ส่วนซิงเกิ้ลที่ 2 "Toxic" เป็นเพลงที่ลบคำสบประมาทของหลายๆคนว่าอัลบั้มนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เพลงนี้เองสามารถทำให้ทุกๆคนได้รับรู้อีกครั้งกับการกลับมา ซิงเกิ้ลที่ 3 "Everytime" ซิงเกิ้ลนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการขอโทษแฟนหนุ่มคนเก่าหรือ จัสติน ทิมเบอร์เลคนั่นเอง แม้เพลงนี้จะไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักในอเมริกา แต่ในเกาะอังกฤษกลับขึ้นอันดับ 1 อย่างสง่างาม โดยยอดขายรวมของอัลบั้มนี้ขายได้กว่า 15 ล้านก๊อปปี้ ซึ่งนับว่าเยอะมากในยุคแห่งการดาวน์โหลดอย่างนี้
และในปีเดียวกันนั้นเธอก็มีคอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้ม In the zone ชื่อว่า the onyx hotel tour เป็นทัวร์ประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้เพราะ คอนเสิร์ตนี้ เปิดจองบัตรเพียง 26 นาทีบัตรก็ขาย หมดซึ่งหลายคนก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่ที่น่าเสียดายมากที่สุดคือเธอจะมาเล่นคอนเสิร์ตนี้ที่ประเทศไทยแต่เพราะขาหักจึงทำให้เธอต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และทัวร์นี้ของเธอ ก็ได้ทำลายสถิติคอนเสิร์ต britney spears live in las vegas "Dream within a dream tour" ของตัวเอง ทำรายได้มากกว่าเดิม 113 ล้านเหรียญสหรัฐ
3 มกราคม 2004 เธอได้แต่งงานกับเพื่อนวัยเด็ก Jason Allen Alexander ในลาสเวกัส แต่ชีวิตการแต่งงานของเธอมีแค่ 55 ชั่วโมง กรกฎาคม 2004 เธอหมั้นกับ แดนเซอร์ Kevin Federline หลังจากรู้จักกัน 3 เดือน และได้แต่งงานกันในวันที่ 6 ตุลาคม 2004
บริทนีย์ออกผลงานรวมฮิต Greatest Hits: My Prerogative อัลบั้มอันดับ 1 ในอเมริกาด้วยยอดขาย 1,050,000 แผ่น มีเพลงอย่าง "My Prerogative" และ "Do Somethin'" และนี่เป็นอัลบั้มสุดท้ายที่ตอกย้ำความเป็นเจ้าหญิงเพลงป็อปอย่างแท้จริงด้วยยอดขายกว่า 35 ล้านแผ่นทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นอัลบั้มที่ขายได้ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้ ที่เป็น greatest hits
เมษายน 2005 เธอประกาศว่าเธอท้องลูกคนแรก และคลอดลูกชายคนแรก Sean Preston Federline เมื่อ 14 กันยายน 2005 ที่ Santa Monica 12 กันยายน 2006 เธอได้คลอดลูกชายคนที่ 2 Jayden James Federline ที่ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ในที่สุดเธอได้หย่าร้างกับ Kevin Federline ในเดือนพฤศจิกายน 2006 พร้อมกับเธอรับเป็นผู้เลี้ยงดูบุตรทั้ง 2 คน
เดือน กุมภาพันธ์ 2007 บริทนีย์สร้างข่าวช็อกแฟนเพลงมากมายโดยเริ่มจากการมีรายงานว่าเธอเข้าบำบัดที่ Crossroads Centre ในหมู่เกาะแคริบเบียน และต่อมาเธอเข้าร้านตัดผมในทาร์ซานา แคลิฟอร์เนียเพื่อโกนหัว ก่อนจะไปสักลายใหม่ [1]
ผลงานอัลบั้ม
- ...Baby One More Time (1999)
- Oops!... I Did It Again (2000)
- Britney (2001)
- In the Zone (2003)
- Greatest Hits: My Prerogative (2004)
- B in the Mix: The Remixes (2005)
ผลงานการแสดง
- Crossroads (2002)
- Austin Powers in Goldmember (2002)
- Longshot (2000)