สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงอิสริยยศ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ เมื่อปี พ.ศ. 2465 ทรงดำรงตำแหน่งอยู่ 16 พรรษา สิ้นพระชนม์ เมื่อปี พ.ศ. 2480 พระชนมายุได้ 79 พรรษา
พระองค์มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าภุชงค์ เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมขุนเจริญผลกุล สวัสดิ์ ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2402 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้า ฯ ให้ศึกษาที่เมืองสิงคโปร์ เมื่อปี พ.ศ. 2414 เป็นเวลา 9 เดือน. เมื่อพระชนมายุได้ 14 พรรษา ทรงผนวชเป็นสามเณร ประทับอยู่ที่วัดราชบพิธ ฯ ศึกษาพระปริยัติธรรม เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้ทรงเข้าแปลพระปริยัติธรรม 2 ครั้ง ได้เป็นเปรียญ 5 ประโยค ได้เป็นพระราชาคณะที่ พระสถาพรพิริยพรต เมื่อปี พ.ศ. 2430 ทรงเป็นคณะกรรมการชุดแรกของมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2436
- พ.ศ. 2438 ได้เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ เสมอชั้นเทพ
- พ.ศ. 2442 ได้เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมปาโมกข์
- พ.ศ. 2444 ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ ฯ เป็นพระองค์ที่ 2
- พ.ศ. 2449 ได้เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ พระพรหมมุนี เจ้าคณะรองในคณะกลาง และได้รับสถาปนาพระอิสริยยศ เป็นพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า
- พ.ศ. 2453 ได้รับสถาปนาพระอิสริยยศ เป็นพระวงรวงศ์เธอกรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง
- พ.ศ. 2464 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า สกลสังฆปรินายก นับว่าเป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระองค์แรก
พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถ นับว่าเป็นปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา ที่สำคัญพระองค์หนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงนิพนธ์ตำรา และหนังสือสำคัญทางพระพุทธศาสนาไว้มาก เช่น พจนานุกรมภาษาบาลีแปลเป็นไทย มหานิบาตชาดก ต้นบัญญัติ สามเณรสิกขา เป็นต้น พระนิพนธ์เหล่านี้ ยังใช้เป็นคู่มือในการศึกษาภาษาบาลี และศึกษาพระพุทธศาสนาของภิกษุสามเณรมาจนถึงปัจจุบัน
บทความนี้ นำข้อความบางส่วนมาจากเว็บไซต์หรือสื่ออื่น หอมรดกไทย ซึ่งเจ้าของเว็บไซต์หรือสื่อดังกล่าว อนุญาตให้เผยแพร่ต่อได้ โดยไม่สงวนลิขสิทธิ์
สมัยก่อนหน้า: สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส |
พระสังฆราช (สมัยที่ {{{สมัยที่}}}) พ.ศ. 2465-พ.ศ. 2480 |
สมัยถัดไป: สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) |