การจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การจัดอันดับสถานศึกษา การจัดอันดับ (ranking) หรือการให้คะแนน (rating) หลักสูตรหรือสถานศึกษานั้น มีขึ้นเพื่อเป็นชี้ถึงจุดเด่นจุดด้อยของสถานศึกษาในด้านต่าง ๆ เช่น คุณภาพการศึกษา คุณภาพงานวิจัย การยอมรับของผู้จ้างงาน งบประมาณการศึกษา เครือข่ายศิษย์เก่า ความเป็นนานาชาติ สัดส่วนนักศึกษาต่อผับในเมือง จำนวนผู้ได้รับรางวัลโนเบล ฯลฯ
การจัดอันดับของแต่ละสำนักนั้น จะให้น้ำหนักความสำคัญกับแต่ละตัวชี้วัดแตกต่างกันไปตามประเภทและวัตถุประสงค์ของการจัดอันดับ เช่น โดยทั่วไป ในการจัดอันดับหลักสูตรบริหารธุรกิจ (MBA) จะให้ความสำคัญกับเครือข่ายศิษย์เก่า มากกว่าในการจัดอันดับสถาบันเทคโนโลยี หรือ ในการจัดดับหลักสูตรระดับปริญญาตรี จะให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ระหว่างศึกษา มากกว่าในการจัดอันดับหลักสูตรระดับปริญญาโทหรือเอก
ตัวชี้วัดที่นำมาใช้ในการจัดอันดับนั้นสามารถแบ่งได้สองประเภทใหญ่คือ แบบอัตวิสัย (subjective) และแบบภววิสัย (objective) โดยแบบแรกนั้นเป็นลักษณะความคิดเห็น เช่น ชื่อเสียงวิชาการในหมู่เพื่อนร่วมอาชีพ ความพอใจของผู้จ้างงาน ส่วนแบบหลังนั้นเป็นข้อมูลที่วัดได้โดยตรง เช่น ขนาดแบนด์วิธอินเทอร์เน็ต จำนวนนักศึกษาต่ออาจารย์
ข้อมูลที่นำมาคำนวณหรือประมวลเป็นตัวชี้วัดนั้น ได้มาจากแหล่งข้อมูลหลายประเภท เช่น ทำการสำรวจ ค้นหาจากสิ่งตีพิมพ์/เว็บไซต์ หรือสอบถามโดยตรงกับสถานศึกษาหรือหน่วยงานรับผิดชอบของแต่ละประเทศ โดยแหล่งข้อมูลแต่ประเภทก็จะใช้แรงงาน เวลา และค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน รวมถึงมีความครอบคลุมและความน่าเชื่อถือต่างกันไป และแหล่งข้อมูลบางประเภทอาจเหมาะกับตัวชี้วัดชนิดหนึ่งแต่ไม่เหมาะกับตัวชี้วัดอีกชนิดหนึ่ง เหล่านี้เป็นปัจจัยในการเลือกใช้แหล่งข้อมูลของสำนักจัดอันดับ และยังเป็นตัวชี้ว่า ผลการจัดอันดับนั้นน่าเชื่อถือเพียงใด
การให้ความสำคัญของอันดับสถานศึกษานั้นแตกต่างกันไปตามประเทศ โดยในสหราชอาณาจักร หนังสือพิมพ์หลายฉบับมีการจัดอันดับสถานศึกษา โดยเฉพาะในระดับปริญญาตรี มีการพิมพ์เป็นคู่มือจำนวนหลายร้อยหน้าทุก ๆ ปี ส่วนในระดับบัณฑิตศึกษา มีหน่วยงานรับผิดชอบของรัฐโดยเฉพาะในการให้คะแนนสถาบันอุดมศึกษาในด้านคุณภาพการศึกษาและคุณภาพการวิจัย ส่วนในสหรัฐอเมริกา อันดับสถานศึกษาส่งผลต่อการเลือกเข้าเรียนของนักเรียน ในขณะที่ในบางประเทศไม่มีการจัดอันดับสถานศึกษา
ในประเทศไทย ได้ริเริ่มให้ 2 หน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย คือ หน่วยงานสมศ. (สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา-องค์การมหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์ในการประเมินตนเองและประกันคุณภาพ และ หน่วยงาน สกอ. (สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา)เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้กับนักเรียนที่จะใช้ในการเลือกสอบเข้าเรียนในสถาบันต่างๆ
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) มีการประเมินสถานศึกษาทั่วประเทศ ทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา และจะเริ่มคะแนนสถาบันอุดมศึกษาในปีการศึกษา 2549 โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2549 การประเมินภายนอกรอบแรก (รอบ พ.ศ. 2544 - 2548) ของสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศได้เสร็จสิ้นแล้ว[1]
สารบัญ |
[แก้] อันดับโดย Times Higher Education Supplement
หนังสือพิมพ์ไทมส์ไฮเออร์เอดูเคชันซัปพลีเมนต์ (Times Higher Education Supplement) จากสหราชอาณาจักร จัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก 200 อันดับ ทั้งแบบโดยภาพรวมและแบบแบ่งตามสาขาวิชา[2] มีตัวชี้วัดดังต่อไปนี้[3] (ในวงเล็บคือสัดส่วนในการคิดคะแนนรวม):
- คะแนนความเห็นจากเพื่อนร่วมอาชีพ (40%) - ถามความเห็นจากอาจารย์ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง 2,375 คน
- คะแนนความเห็นผู้จ้างงาน (เริ่มใช้ใน ค.ศ. 2005) (10%) - ถามความเห็นจากผู้จ้างงาน 333 แห่ง
- สัดส่วนอาจารย์นานาชาติ (5%)
- สัดส่วนนักศึกษานานาชาติ (5%)
- สัดส่วนอาจารย์ต่อนักศึกษา (20%)
- คะแนนงานวิจัยของอาจารย์ที่ถูกอ้างอิง/ความสำคัญในสาขา (20%)
[แก้] อันดับโดยมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวถง
The Academic Ranking of World Universities โดย มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวถง ของประเทศจีน เป็นการจัดอันดับที่มักจะได้รับการกล่าวถึงควบคู่ไปกับการจัดอันดับของ THES และได้รับการอ้างอิงในบทความของนิตยสาร The Economist หลายครั้ง[4] ได้เริ่มจัดอันดับมาได้เพียง 2 ครั้ง คือ ปี ค.ศ. 2004 และ ค.ศ. 2005 และมีการปรับเปลี่ยนตัวชี้วัดและอัตราส่วน ทำให้แต่ละครั้งมีตัวชี้วัดไม่เหมือนกัน โดยให้น้ำหนักไปที่งานวิจัยและศักยภาพทางวิชาการที่สามารถวัดได้ (ภววิสัย) โดยเกณฑ์ล่าสุดนั้น ให้คะแนนด้านวิชาการ 4 ด้าน (เพิ่มศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์เข้าไป จากเดิมมีแค่ด้านวิทยาศาสตร์อย่างเดียว) ด้านละ 20%, ศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลเกียรติยศ 10%, และอัตราส่วนผลงานวิจัยต่อจำนวนอาจารย์ประจำ 10%
หากพิจารณาถึงความสามารถด้านวิชาการโดยรวมของทุกสาขาวิชา การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของสำนักนี้ เชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นการจัดอันดับคุณภาพเชิงปริมาณโดยรวมทุกสาขาวิชา โดยจัดอันดับแยกเป็นหมวดตามภูมิภาคดังนี้
- ระดับโลก 500 แห่ง (Top 500 World Universities)
- ระดับภูมิภาค ภูมิภาคละ 100 แห่ง
- อเมริกาเหนือและละตินอเมริกา (Top 100 North & Latin American Universities)
- ยุโรป (Top 100 European Universities)
- เอเชียแปซิฟิก (Top 100 Asia Pacific Universities)
[แก้] อันดับโดย Webometrics
ตัวชี้วัด Webometrics นั้นจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก อันดับ Webometrics จะบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน
ผู้ทำการจัดอันดับ Webometrics นั้น ได้ระบุในหน้าแรกของเว็บไซต์ว่า ไม่ได้ต้องการจัดอันดับคุณภาพการศึกษาหรือชื่อเสียงทางวิชาการ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้อันดับนี้ในการเปรียบเทียบสถานศึกษา หรือใช้ในการตัดสินใจเข้าศึกษา[5]
[แก้] อันดับโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยของประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ ด้านการเรียนการสอน และด้านวิจัย โดยอาศัยตัวชี้วัด[6] ดังต่อไปนี้
[แก้] ตัวบ่งชี้ด้านการเรียนการสอน (Teaching Ranking Indicator, TRI)
- Student ratio (20%) คำนวณจาก
- จำนวนนักศึกษาทุกระดับ ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
- Faculty resources (20%) คำนวณจาก
- จำนวนอาจารย์วุฒิปริญญาเอก ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
- จำนวนศาสตราจารย์ ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
- จำนวนรางวัลระดับชาติและนานาชาติ*
- จำนวนอาจารย์ทั้งหมด ต่อ จำนวนหลักสูตรทั้งหมด
- Financial resources (20%) คำนวณจาก
- งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด+เงินรายได้จากการจัดการเรียนการสอนนอกเวลา ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
- งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด+เงินรายได้จากการจัดการเรียนการสอนนอกเวลา ต่อ จำนวนนักศึกษาทั้งหมด
- งบห้องสมุด ต่อ จำนวนนักศึกษาทั้งหมด
- ขนาดของ bandwidth ต่อ จำนวนนักศึกษาทั้งหมด
- Internationality (10%) คำนวณจาก
- จำนวนนักศึกษาต่างชาติ ต่อนักศึกษาทั้งหมด
- จำนวนอาจารย์ต่างชาติ ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
- Quality of Education (10%) คำนวณจาก
- ศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลระดับชาติ/นานาชาติ
- นักศึกษาปัจจุบันที่ได้รับรางวัลระดับชาติ/นานาชาติ
[แก้] ตัวบ่งชี้ด้านการวิจัย (Research Ranking Indicator, RRI)
- ด้านแหล่งทุน (20%) คำนวณจาก
- เงินรายได้ที่จัดสรรเพื่อการวิจัย+เงินวิจัยจากแหล่งทุนภายนอก ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
- เงินรายได้ที่จัดสรรเพื่อการวิจัย ต่อ งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด
- เงินวิจัยจากแหล่งทุนภายนอกทั้งในและต่างประเทศ ต่อ งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด
- เงินวิจัยจากอุตสาหกรรม, กระทรวง, จังหวัด ต่อ งบประมาณแผ่นดินทุกหมวด
- ด้านบุคคลากร (20%) คำนวณจาก
- จำนวน (อาจารย์+นักวิจัย) วุฒิปริญญาเอก ต่อ จำนวน (อาจารย์+นักวิจัย) ทั้งหมด
- จำนวนศาสตราจารย์ ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
- จำนวนรางวัลระดับชาติและนานาชาติ*
- จำนวน (อาจารย์+นักวิจัย) ที่เป็นสมาชิกคณะบรรณาธิการ ของวารสารฐานข้อมูลสากล
- ด้านผลงาน คิดเป็น (45%) คำนวณจาก
- จำนวนสิทธิบัตรในประเทศ
- จำนวนสิทธิบัตรในต่างประเทศ
- จำนวนบทความในฐานข้อมูลสากล ต่อ จำนวน (อาจารย์+นักวิจัย) ทั้งหมด
- เงินรายได้ที่จัดสรรเพื่อการวิจัย+เงินทุนวิจัยจากแหล่งทุนภายนอก ต่อ จำนวนบทความทั้งหมด
- จำนวนบทความในฐานข้อมูล ISI ที่ (อาจารย์+นักวิจัย) เป็นผู้วิจัยหลัก ต่อ จำนวนบทความในฐานข้อมูล ISI
- จำนวนครั้งที่บทความในฐานข้อมูล ISI ได้รับการอ้างอิง ต่อ จำนวนบทความในฐานข้อมูล ISI (ย้อนหลัง 5 ปี)
- จำนวนหนังสือหรือตำราที่เขียนเป็นภาษาต่างประเทศที่ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์
- ด้านบัณฑิตศึกษา (15%) คำนวณจาก
- จำนวนนักศึกษา ป. เอกที่รับเข้าศึกษา ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
- จำนวนบัณฑิต ป. เอกที่จบการศึกษา ต่อ จำนวนอาจารย์ทั้งหมด
- จำนวนนักศึกษา ป. เอก ที่ได้รับทุน คปก. หรือเทียบเท่า ต่อ จำนวนนักศึกษาทั้งหมด
[แก้] ดูเพิ่ม
- อันดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย
- อันดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา อันดับและการจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาในสหรัฐอเมริกา
[แก้] อ้างอิง
- ↑ สถานภาพการประเมินสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ข้อมูลเดือน มีนาคม 2549 สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
- ↑ อันดับมหาวิทยาลัยจาก หนังสือพิมพ์ไทมส์ไฮเออร์เดดูเคชันซัปพลีเมนต์ (ต้องสมัครสมาชิก)
- ↑ อธิบายตัวชี้วัดของ THES World University Rankings 2005 พร้อมข้อสังเกต โดยฝ่ายวางแผน มหาวิทยาลัยเอดินบะระ
- ↑ http://www.economist.com/displaystory.cfm?story_id=4339960
- ↑ http://www.webometrics.info/ เรียกดู 25 พ.ค. 2549
- ↑ การวัดศักยภาพสถาบันอุดมศึกษาไทย ประจำปี 2548 โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- การจัดอันดับมหาวิทยาลัย กระจกสะท้อนคุณภาพอุดมศึกษาไทย, เอื้อมทิพย์ ศรีทอง, มติชนรายวัน ฉบับที่ 9850 ประจำวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2548, หน้าที่ 5 (เรียกจากฐานข้อมูลการวิจัยการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ - สกศ.)
- สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.)
- อันดับมหาวิทยาลัย โดย มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวถง
- อันดับ Webometrics ของมหาวิทยาลัยทั่วโลก 3000 อันดับแรก
- อันดับมหาวิทยาลัยโลก โดย THES
- อันดับมหาวิทยาลัยโลก โดย Newsweek
- การจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาในประเทศเยอรมนี โดย Die Zeit ร่วมกับ CHE