สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3 : ซิธชำระแค้น
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3 : ซิธชำระแค้น(Star Wars Episode III: Revenge of the Sith) เป็นตอนที่สามในภาพยนตร์ชุดสตาร์ วอร์ส (แต่สร้างเป็นลำดับที่ 6) เริ่มฉายเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 จัดจำหน่ายโดย 20th Century Fox กำกับและเขียนบทภาพยนตร์โดยจอร์จ ลูคัส
[แก้] ข้อความเปิดเรื่อง
- Episode III
- REVENGE OF THE SITH
- War! The Republic is crumbling
- under attacks by the ruthless
- Sith Lord, Count Dooku.
- There are heroes on both sides.
- Evil is everywhere.
- In a stunning move, the
- fiendish droid leader, General
- Grievous, has swept into the
- Republic capital and kidnapped
- Chancellor Palpatine, leader of
- the Galactic Senate.
- As the Separatist Droid Army
- attempts to flee the besieged
- capital with their valuable
- hostage, two Jedi Knights lead a
- desperate mission to rescue the
- captive Chancellor....
[แก้] เรื่องย่อ
การต่อสู้แห่งหายนะครั้งสุดท้ายของสงครามโคลนที่แผ่ขยายไปทั่วกาแล็กซี่ รวมทั้งที่เหนือน่านฟ้าของดาวคอรัสซานท์ ที่ตั้งของสาธารณรัฐซึ่งกำลังแตกเป็นเสี่ยง และยังเป็นที่อยู่ของเหล่าอัศวินเจได สมุหนายกพัลพาทีนถูกจับตัวไปโดยนายพลกรีวัส ผู้ชั่วช้า หัวหน้าแห่งกองทัพดรอยด์ กองกำลังหุ่นยนต์แห่งขบวนการแบ่งแยกดินแดน
โอบีวัน เคโนบี และ ศิษย์คู่ใจคืออนาคิน สกายวอล์คเกอร์ พยายามฝ่าฝันเข้าไปช่วยเหลือ ต้องเผชิญหน้ากับความเสียเปรียบอย่างมากเพื่อช่วยให้พัลพาทีนเป็นอิสระ อนาคินและโอบีวันต่อทำการดวลกระบี่แสงกับเคาท์ดูกูเป็นครั้งที่สอง โอบีวันเป็นคนแรกที่ถูกเล่นงานจนหมดสติไปจนเหลือเพียงอนาคินและต้องต่อสู้ตามลำพังจนสามารถสังหารเคาน์ดูกูผู้ซึ่งเคยตัดแขนของเขาใน เอพพิโซด 2 ได้สำเร็จและช่วยสมุหนายกออกมาได้ แต่นั่นเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของสงครามการต่อสู้อันแสนโหดร้าย
เปิดฉากการต่อสู้ที่ดำเนินไปตามลำดับเหตุการณ์ ซึ่งนำไปสู่เวลาแห่งความเป็นจริงของอนาคิน ผู้ซึ่งมีความลับที่เขาต้องคอยปกปิดอยู่ เขาใช้ชีวิตสองหน้าในฐานะอัศวินเจได ในขณะที่ได้แต่งงานอย่างลับๆ กับวุฒิสมาชิกหญิง แพดเม่ อมิดาล่า และแพดเม่กำลังตั้งท้องอ่อน ๆ ถึงแม้ว่าจะมีข่าวดีเรื่องลูกของทั้งสอง แต่อนาคินกลับเห็นนิมิตบอกเหตุถึงการตายของแพดเม่ ทำให้เขาหวาดกลัวและไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นกับแม่ของเขา เนื่องจากสภาเจไดได้ตัดสินว่าหากนายพลกรีวัสยังอยู่สงครามก็จะไม่มีวันจบ จึงมอบหมายให้โอบีวันเดินทางพร้อมกองทัพไปยังดาวยูทาเปาและกำจัดนายพลกรีวัสซะ ทำให้เขาและอนาคินต้องห่างกัน ซึ่งเป็นผลร้ายกับอนาคินซึ่งตอนนี้มีจิตในไม่มั่นคง
โอบีวันได้ไปพบกับนายพลกรีวัสและทำการต่อสู้กับเขา ขณะที่โอบีวันเสียเปรียบ กองทัพโคลนส์ก็มาช่วยไว้ได้ทันดาวทั้งดาวกลายเป็นสงครามอย่างทันทีและมันจะเป็นสงครามสุดท้ายของสงครามโคลน
สมุหนายกพัลพาทีนล่อลวงให้อนาคินตกเป็นเหยื่อของความกลัวที่จะสูญเสียแพดเม่ เพราะอนาคินได้รับรู้ถึงลางบอกเหตุนั้น พัลพาทีนผู้ซึ่งได้เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาแล้วว่า เขานี่แหละคือ ซิธลอร์ด นามว่า ดาร์ธ ซิเดียส ได้เปิดเผยให้อนาคินล่วงรู้ถึงด้านมืดอันเป็นอีกด้านหนึ่งของพลัง ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเขา แต่เป็นการให้สัญญาว่าจะสอนพลังนี้ให้อย่างที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ พลังที่จะช่วยคนที่รักไว้จากความตาย
แล้วจุดเปลี่ยนของเรื่องก็มาถึงเมื่อ อนาคินรู้ว่าพัลพาทีนคือซิธลอร์ด เขาได้บอกกับอาจารย์วินดูอนาคินกลับมาคอยเมซ วินดูที่วิหารเจไดขณะที่รอเขาก็นึกขึ้นได้ว่า เขาไม่อาจทนที่จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากแพดเม่ได้จึงรีบรุดไปหาพลพาทีนทันที อาจารย์วินดูซึ่งมาพร้อมกับอาจารย์เจไดอีก 3 นายตรงไปจะจับตัวพัลพาทีน แต่ทั้งสามก็พลาดท่าถูกพัลพาทีนฆ่า ในระหว่างที่อาจารย์วินดูกำลังจะฆ่าซิธลอร์ดได้นั่นเอง ซิธลอร์ดได้ร้องขอให้อนาคินช่วยเขา เพราะหากเขาตายอนาคินจะไม่มีโอกาสได้เรียนรู้พลังอันจะช่วยชีวิตแพดเม่ได้ อนาคินเองไม่พอใจสภาเจได เป็นทุนเดิมอยู่แล้วที่ยอมให้ตนเข้าเป็นสมาชิกสภา ตามคำขอของสมุหนายก แต่สภากลับไม่มอบตำแหน่งอาจารย์ให้เขา อนาคินจึงเปลี่ยนไปสู่ด้านมืด เขาช่วยซิธลอร์ดสังหารอาจารย์วินดู
ซิธลอร์ดให้ชื่อลูกศิษย์คนใหม่นี้ว่า ดาร์ธเวเดอร์ พลัน เขาสั่งให้ดาร์ธเวเดอร์นำกำลังของสาธารณรัฐบุกเข้าโจมตีวิหารเจไดและสังหารเหล่าเจไดให้หมด ในโทษฐานที่พวกเจไดคิดกบฏต่อสมุหนายกแพลพาทีนและสาธารณรัฐ พวกเจไดถูกสังหารจนหมดสิ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่พาดาวันเด็ก แสดงให้เห็นความโหดเหี้ยมของดาร์ธ เวเดอร์ จากนั้นซิธลอร์ดก็ให้เขาไปกำจัดพวกสหพันธ์พาณิชย์ที่ดาวภูเขาไฟมุสตาฟา
มีเพียงปรมาจารย์โยดาซึ่งไปทำภารกิจที่ดาวคาชี้กและอาจารย์โอบีวันที่ไปจัดการนายพลกรีวัสที่ดาวยูทาเปาเท่านั้นที่รอดจากการสังหาร และเมื่ออาจารย์ทั้งสองกลับมายังคอรัสซานท์ โอบีวันก็ได้รู้ว่าผู้ที่สังหารเหล่าเจไดก็คือพาดาวันของเขานั่นเอง อาจารย์โยดาสั่งให้อาจารย์โอบีวันไปยังมุสตาฟาร์เพื่อกำจัดอนาคินทรงพลังเกินกว่าที่โอบีวันจะรับมือได้ ทั้ง ๆ ที่โอบีวันไม่ต้องการทำอย่างนั้น โอบีวันทำการค้นหาเขาโดยไปพบกับแพดเม่แต่นางไม่กล้าบอกเขา โอบีวันจึงแอบขึ้นยานของแพดเม่เพื่อไปพบกับอนาคินที่มุสตาฟาร์ เมื่อไปถึงอนาคินกลับโมโหแพดเม่เมื่อรู้ว่านางมากับโอบีวันและใช้พลังทำร้ายนาง และแล้วศิษย์กับอาจารย์ก็ปะทะกันด้วยไลท์เซเบอร์บนดาวภูเขาไฟมุสตาฟาร์ โอบีวันเอาชนะศิษย์รักของเขาได้ แต่ดาร์ธ เวเดอร์ไม่ตายเนื่องจากเขาผู้เป็นคนที่เกิดจากพลัง จนกระทั่งซิธลอร์ดรีบเดินทางมาช่วยนำเขากลับไปรักษา โดยดาร์ธ เวเดอร์อยู่ในชุดเครื่องช่วยชีวิตสีดำ ซึ่งเป็นชุดที่ดาร์ธ เวเดอร์ต้องใส่อยู่ตลอดเวลา อย่างที่เราเห็นกัน
ส่วนโอบีวันได้นำตัวแพดเม่ไปปฐมพยาบาลและคลอดลูกฝาแฝดบนโพลิสแมสซา ลูกของนางเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ผู้ชายชื่อลุค ผู้หญิงชื่อเลอา ซึ่งจะเป็นตัวเอกใน เอพพิโซด 4-6 นั่นเอง และเมื่อคลอดลูกแล้วแพดเม่ซึ่งตามสภาพร่างกายของนางแล้วน่าจะรอดแต่นางกลับตายเพราะเสียใจที่ชายซึ่งนางรักที่สุดกลายเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ผู้ชั่วร้าย
โอบีวันและโยดาตกลงกันว่า จะซ่อนเด็กทั้งสองให้พ้นจากซิธลอร์ด โดยเด็กชายจะไปอยู่กับญาติเก่าของอนาคินบนทาทูอีนโดยมีโอบีวันเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ส่วนผู้หญิงวุฒิสมาชิกออร์กานาจะรับไปเลี้ยงดูบนดาวอัลเดอรานด้วยตนเอง ทางด้านจักรวรรดินั้นได้ดำเนินแผนชั่วร้ายโดยการสร้างดาวมรณะซึ่งมันจะเขย่าขวัญไปทั่วกาแลคซี่
[แก้] ตัวละคร
- อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (แสดงโดย เฮย์เดน คริสเตนเซ่น)
- โอบี-วัน เคโนบี (แสดงโดย ยวน แม็คเกรเกอร์)
- แพดเม่ อมิดาล่า (แสดงโดย นาตาลี พอร์ตแมน)
- สมุหนายกแพลพาทีน (แสดงโดย เอียน แม็คเดียมิด)
- เมซ วินดู (แสดงโดย แซมมวล เเอล. แจ็คสัน)
สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด |