มหาวิทยาลัยโตเกียว
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาวิทยาลัยโตเกียว
ชื่อ | มหาวิทยาลัยโตเกียว (โตได หรือ โทได) |
ชื่อ (อังกฤษ) | University of Tokyo (Todai หรือ UT) |
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2420 |
ประเภทสถาบัน | รัฐ |
อธิการบดี | ศาสตราจารย์ ดร.ฮิโรชิ โคมิยาหมะ |
สีประจำสถาบัน | ฟ้าน้ำทะเล |
ที่ตั้ง/วิทยาเขต | บุงเคียว โตเกียวญี่ปุ่น |
เว็บไซต์ | www.u-tokyo.ac.jp |
มหาวิทยาลัยโตเกียว (「東京大学」 Tōkyō Daigaku – โทเคียวไดงะคึ?) หรือย่อว่า (「東大」 Tōdai – โทได หรือโตได?) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยโตเกียวประกอบด้วยห้าศูนย์ คือฮองโงะ โคมะบะ คะชิวะ ชิโระงะเนะ และ นากาโนะ รวมถึงสิบคณะซึ่งมีนักศึกษารวมทั้งสิ้นประมาณ 30,000 คน ในจำนวนนี้มีนักศึกษาต่างชาติประมาณ 2,100 คนเป็นนักศึกษาไทยประมาณ 150 คน (ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงทีสุดในบรรดามหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น) ปัจจุบันหลักสูตรครอบคลุมสาขาวิทยาการเกือบทั้งหมดแต่มหาวิทยาลัย จะมีหลักสูตรที่เป็นจุดแข็งคือ กฎหมายและวรรณกรรม มหาวิทยาลัยแห่งนี้ผลิตนักการเมืองญี่ปุ่นจำนวนมาก นับแต่อดีตจนปัจจุบันแม้ว่าสัดส่วนจะลดลงก็ตาม อัตราส่วนของรัฐมนตรีที่เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยโตเกียวยังคงสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยแต่ละช่วงคริสตศตวรรษจะอยู่ที่ประมาณ 2/3 1/2 1/4 1/5 และ1/6 ในช่วงคริสศตวรรษที่ 1950 60 70 80 และ 90 ตามลำดับ
มหาวิทยาลัยโตเกียวมีการเรียนการสอนที่เป็นที่ยอมรับว่า เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นสูงในหลากหลายสาขาวิชา โดยมีมหาวิทยาลัยคู่แข่งอยู่หกมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยจักรพรรดิซึ่งก่อตั้งก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หรือมหาวิทยาลัยเกียวโตซึ่งผลิตนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลมากกว่ามหาวิทยาลัยโตเกียวเสียอีก หนึ่งในศิษย์เก่าเจ้าของรางวัลโนเบลของมหาวิทยาลัยโตเกียวคืออธิการบดีมหาวิทยาลัยโตเกียวอิมพิเรียลชื่อ ศาสตราจารย์ คิคุจิ ไดโรกุ
ทีมเบสบอลมหาวิทยาลัยโตเกียว ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในระดับมหาวิทยาลัยของกรุงโตเกียว
ศูนย์ฮองโหงะเป็นศูนย์หลักของมหาวิทยาลัยซึ่งเดิมเป็นที่พำนักของตระกูล "มาเอดะ" ช่วงสมัยเอโดะผู้เป็นเจ้าเมืองเคหงะ สัญลักษณ์หนึ่งที่เป็นที่รู้จักและอยู่จนปัจจุบันของมหาวิทยาลัยคือ "อะกามง" (ประตูแดง) ส่วนตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเป็นรูปใบแปะก๊วย ซึ่งปลูกอยู่เรียงรายทั่วทั้งบริเวณของมหาวิทยาลัย
สารบัญ |
[แก้] ประวัติ
มหาวิทยาลัยโตเกียวก่อตั้งช่วงยุคสมัยเมจิในปี ค.ศ. 1877 ภายใต้ชื่อปัจจุบันโดยรวมโรงเรียนแพทย์ของรัฐบาลเดิมเข้ากับการเรียนการสอนแบบตะวันตกเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยจักรพรรดิ (帝國大學 เทโคะขุ ไดงะคึ) ในปีค.ศ.1886 แล้วเปลี่ยนอีกเป็น "มหาวิทยาลัยจักรพรรดิโตเกียว" (東京帝國大學 โทเคียว เทโคะขุ ไดงะคึ) ในปีค.ศ. 1887 เมื่อระบบเครือมหาวิทยาลัยจักรพรรดิเริ่มก่อสร้างตัวขึ้น พอในปีค.ศ.1947หลังจากญี่ปุ่นพ่ายสงครามโลกครั้งที่สอง มหาวิทยาลัยได้กลับมาใช้ชื่อดั้งเดิมอีกครั้ง และเริ่มต้นระบบมหาวิทยาลัยใหม่ในปีค.ศ.1949 โทได หรือ โตไดได้ยุบรวมสถาบันการศึกษาขั้นสูงแห่งแรก (ปัจจุบันคือศูนย์โคมะบะ) และสถาบันการศึกษาขั้นสูงแห่งโตเกียวเดิม เข้าเป็นศูนย์ของมหาวิทยาลัย โดยแบ่งแยกการเรียนการสอนปีแรกและปีที่สองของระดับปริญญาบัณฑิตไว้ที่ศูนย์นี้ หลังจากนั้นพอนักศึกษาขึ้นชั้นปีที่สามจึงย้ายเข้าเรียนที่ศูนย์หลักฮองโหงะ
มหาวิทยาลัยโตเกียวเข้าร่วมกับกับสมาพันธ์ความร่วมมือมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งประเทศญี่ปุ่นภายใต้กฎหมายใหม่ซึ่งใช้กับมหาวิทยาลัยของรัฐทุกมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปีค.ศ. 2004 (ออกนอกระบบ)
แม้ว่าจะสมาพันธ์จะมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นอิสระทางการเงินและการบริหาร มหาวิทยาลัยโตเกียวยังคงถูกควบคุมบางส่วนโดยกระทรวงการศึกษา วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (มนบุคะงะกุโช หรือ มงกะโช)
[แก้] คณะและบัณฑิตวิทยาลัย
[แก้] คณะ
- นิติศาสตร์
- อักษรศาสตร์
- แพทยศาสตร์
- เภสัชศาสตร์
- วิศวกรรมศาสตร์
- วิทยาศาสตร์
- เกษตรศาสตร์
- เศรษฐศาสตร์
- ศิลปศาสตร์และวิทยาการ
- ศึกษาศาสตร์
[แก้] บัณฑิตวิทยาลัย
- นิติศาสตร์และรัฐศาสตร์
- แพทยศาสตร์
- วิศวกรรมศาสตร์
- มนุษยวิทยาและสังคมศาสตร์
- วิทยาศาสตร์
- เกษตรศาสตร์และชีวศาสตร์
- เศรษฐศาสตร์
- ศิลปศาสตร์และวิทยาการ
- ศึกษาศาสตร์
- เภสัชศาสตร์
- วิทยาการคณิตศาสตร์
- วิทยาการล้ำยุค
- วิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ศึกษาสารสนเทศเชิงบูรณาการ
- นโยบายสาธารณะ
[แก้] สถาบันวิจัย
- สถาบันวิทยาการเวชศาสตร์
- สถาบันวิจัยแผ่นดินไหว
- สถาบันวัฒนธรรมตะวันออก
- สถาบันสังคมศาสตร์
- สถาบันศึกษาสารสนเทศและการสื่อสารสังคม
- สถาบันวิทยาการอุตสาหการ
- สถาบันภูมิประวัติศาสตร์
- สถาบันเวชศาสตร์โมเลกุลและเซลล์
- สถาบันวิจัยรังสีคอสมิก
- สถาบันฟิสิกส์สถานะของแข็ง
- สถาบันวิจัยมหาสมุทร
[แก้] คณาจารย์ที่มีชื่อเสียง
- บาสิล ฮอล ชามเบอร์เลียน (Basil Hall Chamberlain)
- ชินนิจิ คิตาโอกะ (Shinichi Kitaoka) ผู้แทนญี่ปุ่นในสหประชาชาติ
- ไดโรกุ คิคุจิ (Dairoku Kikuchi)
[แก้] ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง
[แก้] นายกรัฐมนตรี
- ชิเงรุ โยชิดะ (Shigeru Yoshida) (1946-1947,1948-1954)
- โนบุสุเกะ คิฉิ (Nobusuke Kishi)(1957-1960)
- เออิซากะ ซาโตะ (Eisaku Sato) (1964-1972)
- ทะเคะโอะ (Takeo Fukuda) (1976-1978)
- ยะสุฮิโหระ นากะโซเนะ (Yasuhiro Nakasone) (1982-1987)
- คิอิจิ มิยะซะหวะ (Kiichi Miyazawa) (1991-1993)
[แก้] นักวิทยาศาสตร์
- ทะดะโตะฉิ อะกิบะ (Tadatoshi Akiba)
- คิโยฉิ อิโต (Kiyoshi Itō)
- เคนคิจิ อิวะซะหวะ (Kenkichi Iwasawa)
- ยะสุมาสะ คาเนดะ (Yasumasa Kanada)
- คุนิฮิโกะ โคไดระ (Kunihiko Kodaira)
- มิคิโอะ ซาโตะ (Mikio Sato)
- โกโหระ ชิมูระ (Goro Shimura)
- ยูทะกะ ทะนิยาหมะ (Yutaka Taniyama)
- เทจิ ทะกะหงิ (Teiji Takagi)
- โทชิยาสึ ลอเรนส์ คูนิอิ (Tosiyasu L. Kunii)
[แก้] อื่น ๆ
- โตโยโอะ อิโต สถาปนิก
- ซูซิโล แบมแบง ยุโธโยโน่ (Susilo Bambang Yudhoyono) ประธานาธิบดีคนที่หกของอินโดนีเซีย
- เลโอ เอซากิ (Leo Esaki) นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล
- ยะสุนะหริ คาวะบาตะ (Yasunari Kawabata) นักเขียนรางวัลโนเบล
- มะสะโตชิ โคชิบะ (Masatoshi Koshiba) นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล
- เคนซะบุโหระ โอเอะ (Kenzaburo Oe) นักเขียนรางวัลโนเบล
- เจ้าหญิงมาซะโกะ (Princess Masako) เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น
[แก้] คนไทย
- ศาสตราจารย์นายแพทย์สมอาจ วงษ์ขมทอง (Som-Arch WongKhomtong) - อดีตศาสตราจารย์ประจำของคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว และ อดีตผอ.สถาบันพัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล
- ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - รองผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร ประธานคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมจราจรและขนส่งวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
[แก้] สระน้ำซันชิโหระ
สระน้ำซันชิโหระ ตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยศูนย์ฮองโหงะ ก่อสร้างเมื่อปี ค.ศ.1615 หลังจากการพังทลายของปราสาทโอซาก้า ท่านโชกุนในสมัยนั้นจึงพระราชทานสระน้ำและสวนรอบ ๆ ให้กับ"มาเอดะ โทชิทซิเหนะ" โดย"มาเอดะ ทซินะโนหริ"เป็นคนพัฒนาสวนเพิ่มเติมจนกลายเป็นสวนที่สวยงามที่สุดใน เอโดะ (ปัจจุบันคือโตเกียว) ด้วยภูมิสถาปัตย์แบบดั้งเดิมแปดแบบแบ่งเป็นแปดบริเวณ ส่วนที่มีชื่อเสียงคือสระน้ำเทียม เนินเขา และคุ้มต่างๆ แต่เดิมรู้จักกันในชื่อว่า "อิคึโตะกุ เอ็น" ซึ่งหมายถึง"สวนแห่งการเผยแผ่พระธรรม" เส้นรอบขอบของสระน้ำจะเป็นรูปหัวใจหรือ "โคะโคะโหระ" หรือ "ชิน" ดังนั้นชื่ออย่างเป็นทางการจะเรียกว่า "อิคึโตะกุ เอ็น ชินจิอิเคะ" อย่างไรก็ตามผู้คนมักเรียกว่า สระน้ำซันชิโหระ หลังจากมีการตีพิมพ์นิยายเรื่องซันชิโหระ ของ"นัทซึเหมะ โซเซกิ"
[แก้] เรื่องแต่งเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยโตเกียว
- ในการ์ตูนและหนังการ์ตูนเรื่องเลิฟ ไฮน่า ตัวเอกคือ เคอิทาโร่ อุระชิหมะ เป็นนักเรียนที่พลาดการสอบเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวหลายหน แต่สอบได้ในท้ายสุด
- การ์ตูนเรื่อง ดรากอน ซากุระ เป็นเรื่องเกี่ยวกับทนายความยากจน ซึ่งเคยเป็นสมาชิกก้วนมอเตอร์ไซค์ ซึ่งพยายามสอนนักเรียนผลการเรียนแย่ ๆ ให้สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้จนจบการศึกษา
- ตัวเอกในเรื่องซูเปอร์แมนของสำนักพิมพ์การ์ตูนดีซี จะเอ่ยถึงเบื้องหลังบ่อย ๆ ว่าเรียนที่มหาวิทยาลัยโตเกียวตอนเป็นคลากเคนท์
- ตัวละครที่เป็นครูและนักตามสาว ชื่อ ซุกุหรุ เทชิงะวะหระจากการ์ตูนและหนังการ์ตูนชื่อดัง "โอนิซึกะยอดครู" เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยโตเกียวและชอบโม้เรื่องการศึกษาของตนเองบ่อยครั้ง
[แก้] มหาวิทยาลัยโตเกียวในงานเขียน
- มานาบุ มิยาซากิ (Manabu Miyazaki), ทบปะโมะโหนะ: นอกกฏ. เหยียดผิว. เคลือบแคลง. ชีวิตของฉันในโลกมืดที่ญี่ปุ่น (2005, สำนักพิมพ์โคตัน (Kotan Publishing), ISBN 0970171625)
[แก้] อันดับมหาวิทยาลัย
ใน ค.ศ. 2005 มหาวิทยาลัยโตเกียวถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย[1] จากการจัดอันดับสถาบันในระดับอุดมศึกษา โดย มหาวิทยาลัยเซียงไฮ้เจียงตง ประเทศจีน
- มหาวิทยาลัยโตเกียว
- มหาวิทยาลัยเกียวโต
- มหาวิทยาลัยแห่งชาติประเทศออสเตรเลีย
- มหาวิทยาลัยโอซาก้า
- มหาวิทยาลัยโตโฮะกุ
- มหาวิทยาลัยฮิบรูแห่งเจรูซาเล็ม
- มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น
- สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว
[แก้] อ้างอิง
- ↑ หนึ่งร้อยอันดับแรกมหาวิทยาลัยในเอเชียแปซิฟิก โดย มหาวิทยาลัยเซียงไฮ้เจียงตง (ค.ศ. 2005)