ชลิต พุกผาสุข
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2491 ในครอบครัวทหาร สมรสกับ ผศ.ดร.พรทิพย์ พุกผาสุข อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีบุตร - ธิดา 2 คน
การศึกษา : สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 6 โรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ 13 โรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง รุ่นที่ 40 โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ รุ่นที่ 27 วิทยาลัยการทัพอากาศ รุ่นที่ 25 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 41 ผ่านหลักสูตรครูการบินไอพ่น (PILOT INSTRUCTOR T - 38) โดยทุน IMETP ที่ซานอันโตนิโอ มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
เส้นทางในการรับราชการ : เริ่มรับราชการในตำแหน่งสำคัญ คือผู้บังคับการฝูงบิน 231 กองบิน 23, เสนาธิการกองบิน 23, รองผู้บังคับการกองบิน 1, ผู้บังคับการกรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศ, ผู้ช่วยทูตทหารอากาศไทยประจำกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย, รองเจ้ากรมกำลังพลทหารอากาศ, ผู้บัญชาการกองพลบินที่ 2 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ, เจ้ากรมกำลังพลทหารอากาศ, ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรืออากาศ, ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศ ฝ่ายกำลังพล, รองเสนาธิการทหารอากาศ, ผู้บัญชาการกองบัญชาการยุทธทางอากาศ, ราชองครักษ์เวรในปี 2531 และราชองครักษ์พิเศษในปี 2546
พล.อ.อ.ชลิต ถือว่าเป็นนายทหารที่มีความรู้ความสามารถสูงในสายงาน "ยุทธการ" โดยผลงานที่สำคัญ คือเป็นหัวหน้าชุดภารกิจรับคนไทยและชาวต่างประเทศกลับจากกัมพูชา ในปี 2540
ปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมมวยปล้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทย (สมัยที่ 2) นายกสมาคมโดดร่มแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนโยธินบูรณะ ประธานคณะกรรมการบริหารชุมนุมนักเรียนนายเรืออากาศ ทั้งเคยได้รับรางวัลบุคคลดีเด่นการบิน 2 พันชั่วโมง (เป็นคนแรกของประเทศไทย) ในปี 2528 ขณะดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.ฝูงบิน 231 กองบิน 23 จ.อุดรธานี
นอกจากนี้ ยังเป็นนักบินที่ทำการทดสอบเครื่องเอฟ 5 ซี ของ ทอ. ซึ่งมีตัวเดียวในประเทศไทย และจอดเสียอยู่ในโรงซ่อมมากกว่า 5 ปี จากนั้นก็ขับเครื่องบินเป็นเครื่องสุดท้ายของฝูง 103 ย้ายจากกองบิน 1 จากสนามบินดอนเมืองไปไว้ที่กองบิน 1 จ.นครราชสีมา จึงถือว่าเป็นบุคคลที่ทำการบินเครื่องบินรุ่นเอฟ 5 ซี ที่จอดเสียนานที่สุด โดยไม่กลัวอันตราย จนสามารถนำเครื่องบินกลับมารับใช้ชาติได้อีก กระทั่งเครื่องลำดังกล่าวปลดประจำการในเวลาต่อมา
เกียรติประวัติอื่นๆ : เริ่มทำการบินเอฟ 5 มาตลอด จนได้ชั่วโมงการบินถึง 1 พันชั่วโมง (เป็นคนที่ 5 ของประเทศไทย) และทำการบินต่อจนครบ 2 พันชั่วโมง (เป็นคนแรกของประเทศไทย) โดยในช่วงการปราบปรามคอมมิวนิสต์ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่บินลาดตระเวนในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และยังเคยผ่านประสบการณ์บินลาดตระเวนชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน จ.ตราด สุรินทร์ บุรีรัมย์ และ จ.สระแก้ว รวมทั้งภารกิจนำเครื่องบินระเบิดไปทิ้งที่สมรภูมิบ้านร่มเกล้าถึง 3 รอบ ขณะประจำการอยู่กองบิน 23 จ.อุดรธานี
ในเหตุการณ์การรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 เป็นรองหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) คนที่ 2 ในฐานะเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ และภายหลังเหตุการณ์ได้รับการแต่งตั้งเป็นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ และเป็นประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (กดส.)
[แก้] ดูเพิ่ม
- รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549
- คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
กองทัพอากาศ | มุนี มหาสันทนะ เวชยันต์รังสฤษฎ์ · หลวงอธึกเทวเดช · หลวงเทวฤทธิ์พันลึก · ฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี · เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร · บุญชู จันทรุเบกษา · กมล เดชะตุงคะ · พะเนียง กานตรัตน์ · ทะแกล้ว ศุษิลวรณ์ · ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ · วรนาถ อภิจารี · เกษตร โรจนนิล · กันต์ พิมานทิพย์ · ศิริพงษ์ ทองใหญ่ · อมร แนวมาลี · ธนนิตย์ เนียมทันต์ · สนั่น ทั่วทิพย์ · ปอง มณีศิลป์ · คงศักดิ์ วันทนา · ชลิต พุกผาสุข |