จูราสสิค พาร์ค
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จูราสสิค พาร์ค (ชื่อภาษาอังกฤษ: Jurassic Park, ชื่อภาษาไทย: กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์) เป็นนิยายโดย ไมเคิล ไครชตัน (Michael Crichton) ออกตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) ต่อมาถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์โดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ความยาว 127 นาที ฉายในปี พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1993) และฉายในประเทศไทยวันแรกเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2536
สารบัญ |
[แก้] เรื่องย่อ
จูราสสิค พาร์ค เปิดฉากด้วยอุบัติเหตุระหว่างการขนย้ายไดโนเสาร์พันธุ์เวโลซีแรปเตอร์ (Velociraptor) ที่เกาะอีสลา นูปลา (Isla Nublar - ใกล้ ๆ คอสตาริกา) ต่อมาตัดมาที่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ได้แก่ นักบรรพชีวินวิทยา ดร. อลัน แกรนท์ (แซม นีล) กับแฟนสาว ดร. แอลลี่ (ลอร่า เดิร์นส์) และนักคณิตศาสตร์ ดร. เอียน มัลคอม (เจฟฟ์ โกลด์บลุม) ได้รับคำเชิญจากมหาเศรษฐีจอห์น แฮมม่อนด์ (ริชาร์ด แอนเทอร์โบโร่) เพื่อมาเยี่ยมชม จูราสสิค พาร์ค เป็นคณะแรก แฮมมอนด์ต้องการทราบความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้และเพื่อรับรองความปลอดภัยของสถานที่แห่งนี้ แอลลี่ตื่นตาตื่นใจมาก ส่วนมัลคอมแสดงความไม่เชื่อมั่นทันทีที่เขามาถึง ขณะที่อลันก็สองจิตสองใจ
ขณะที่ทั้งหมดกำลังเยี่ยมชมกันอยู่นั้น พายุฝนก็ตกกระหน่ำขึ้นมา เดนนิส เนิร์สลี่ย์ (เวย์น ไนท์) ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ของพาร์คก็ทรยศ ได้ยกเลิกระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดออกเพื่อเเอบเอาเซลล์ของไดโนเสาร์หนีไปขาย ไดโนเสาร์ทั้งหมดก็อาละวาด เพราะกรงไฟฟ้าทำงานไม่ได้ อลันกับทิม หลานชายและ เล็กซ์ หลานสาวของแฮมม่อนด์ติดอยู่ในป่า ทั้งหมดต้องผจญภัยเอาชีวิตรอด
ท้ายที่สุด เมื่อรอดและขอความช่วยเหลือจากแผ่นดินใหญ่ได้ อลันลงความเห็นว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยและไม่เห็นด้วยกับความคิดที่จะเปิดที่นี่ให้เป็นสวนสัตว์
[แก้] ความนิยม
จูราสสิค พาร์ค เมื่อออกฉายกลายเป็นภาพยนตร์ยอดนิยมแห่งปีภายในระยะเวลารวดเร็ว ทำรายได้ถล่มทลายทุกประเทศที่เข้าฉาย ไม่แม้แต่เว้นประเทศไทย สามารถทำรายได้ถึง 65 ล้านเหรียญในสหรัฐอเมริกา และทำสถิติเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากที่สุดในโลกนานถึง 3 ปี ก่อนที่จะถูกทำลายสถิติลงโดยสตาร์ วอร์ส ฉบับฉายใหม่ ในปี พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1996)
[แก้] ภาคต่อ
และยังได้รับการสร้างเป็นภาคต่อในปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ด้วย ในชื่อ The Lost World : Jurassic Park ชื่อภาษาไทยคือ ใครว่ามันสูญพันธุ์ และภาค 3 ในปี พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001) ในชื่อ Jurassic Park III แต่ทั้งสองภาคนี้แม้จะทำรายได้มากเช่นเดียวภาคแรก แต่ไม่ได้รับคำชมคำวิจารณ์ในทางที่ดีเหมือนภาคแรกเลย และภาค 3 นี้ไม่ได้กำกับโดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก แล้ว