เจ้าจอมพิศว์ บุนนาค
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เจ้าจอมพิศว์ ตจ. ในรัชกาลที่ 5 เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2413 ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเมีย ณ บ้านหน้าวัดประยูรวงศาวาส ธนบุรี เป็นธิดาอันดับที่ 2 ของ เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) และ ท่านผู้หญิงเปลี่ยน (สกุลเดิมชูโต) มีพี่น้อง 5 คน คือ
- เจ้าหมื่นศรีสรรักษ์ (เพ่ง บุนนาค)
- ท่านเจ้าจอมพิศว์ ในรัชกาลที่ 5
- นายราชาณัตยานุหาร (พาสน์ บุนนาค)
- หม่อมพัฒน์ รัชนี ในกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์
- คุณหญิงพวง ดำรงราชพลขันธ์
ในสมัยที่เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ มีตำแหน่งหน้าที่เป็นจางวางมหาดเล็ก และราชเลขาธิการใน พระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลาท่านเข้าวังมักจะพาเจ้าจอมพิศว์ไป ด้วยเสมอ ท่านจึงมีโอกาสเข้าเฝ้าใกล้ชิดพระยุคลบาท และคุ้นเคยกับเจ้านายทั้งฝ่ายหน้า ฝ่ายในมาแทบทุกพระองค์มาแต่อายุ 13 ขวบ เมื่อคราวงานพระราชพิธีโสกันต์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร มีพระราชประสงค์ ให้คุณจอมทำหน้าที่เป็นนางเชิญมยุรฉัตร เข้ากระบวนแห่ในงานพระราชพิธีนั้น ได้มีพระราช กระแสขอต่อเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ ท่านจึงได้ให้ท่านผู้หญิงเปลี่ยน นำคุณพิศว์เข้าเฝ้าถวายตัว รับราชการฝ่ายในแต่นั้นมา โดยอยู่ที่ตำหนักเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ ผู้เป็นญาติ
เจ้าจอมพิศว์ รับราชการฉลองพระเดชพระคุณด้วยความจงรักภักดี มานานกว่า 30 ปี จนสิ้น รัชกาลที่ 5 แล้ว ท่านยังคงรับราชการในพระบรมมหาราชวังตลอดมา จนกระทั่งท่านผู้หญิง เปลี่ยน ถึงอนิจกรรม จากการถูกทหารเรือฟันเป็นบาดแผลสาหัสนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าฯทรงพระราชปรารภว่า
![]() |
เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ มีอายุล่วงเข้าวัยชรามากแล้ว เวลาป่วยไข้ลง
จะลำบาก ไม่มีใครดูแลปรนนิบัติ เพราะบุตรธิดาอื่นต่างมีครอบครัวไปหมด |
![]() |
ทรงสงสารเจ้าพระยา ภาสกรวงศ์ จึงโปรดให้คุณจอมออกไปช่วยดูแลการงานทางบ้าน แต่ยังคงให้มีหน้าที่ราชการฝ่ายใน ตามเดิม ได้ปฏิบัติหน้าที่สนองพระคุณเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ตลอด 15 ปี จนท่านเจ้าพระยา อสัญกรรม
เจ้าจอมพิศว์ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตติยจุลจอมเกล้า เหรียญ รัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 3 และหีบหมากทองคำลงยา อันมีเกียรติเท่าชั้นเจ้าจอมมารดา นอกจากนี้ยังได้รับพระราชทานเข็มพระบรมรูปอักษรพระปรมาภิไธยย่อ จปร ทองคำฝังเพชร และของที่ระลึกอื่นๆอีกมาก
ในทางพระศาสนาได้บริจาคเงินบำรุงโรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดประยูรวงศาวาส และบำเพ็ญกุศลอีกมากตลอดอายุ
เจ้าจอมพิศว์เป็นผู้มีงานอดิเรกมากมาย ท่านเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขเป็นที่สุด ตั้งแต่ยังอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ท่านเคยได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 มาตัวหนึ่ง ชื่อเนล ท่านเลี้ยงจนเก่ง สอนให้ไปซื้อขนมก็ได้ โดนส่งเงินให้คาบไปจ้องขนมที่จะซื้อตรงหน้า จนผู้ขายเข้าใจและหยิบให้จึงจะคายอัฐให้ผู้ขาย คาบห่อขนมกลับมา เมื่ออกมานอกวังท่านก็ ยังเล่นต่อ ท่านมีสารพัดพันธุ์ชนิดตั้งแต่พันธุ์ไทยถึงพันธุ์เทศราคาแพงๆ ว่ากันว่านกแก้วมากัว ที่ท่านเลี้ยงนั้น เป็นตัวแรกที่มีในประเทศไทย และยังเป็นผู้ริเริ่มเล่นปลาตู้คนแรกด้วย โดยทำ เป็นซีเมนต์มีกระจกข้างหน้าขนาดใหญ่พอดู 2-3 ตู้ เลี้ยงทั้งปลาไทยปลาเทศ
ในด้านการบันเทิง ท่านชอบดูภาพยนตร์เป็นประจำ และชอบสะสมรูปที่สอดมาในซองบุหรี่ หรือเรียกว่ายากาแรต ท่านมีเป็นชุดๆมากมายหลายสิบอัลบั้ม นับว่าท่านเป็นนักสะสมรูป ยากาแรต ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย ร้านค้ารูปยังเป็นรองท่าน ฝีมือทางด้านการครัว ย่อมเป็นเอก ในฐานะบุตรีของท่านผู้หญิงเปลี่ยน เจ้าของหนังสือตำรา "แม่ครัวหัวป่าก์" อันโด่งดัง ท่านมีฝีมือมากในด้านการต้มหมูแฮม ซึ่งเป็นสูตรพระราชทาน จากรัชกาลที่ 5 สูตรน้ำพริก ท่านก็มีมากมายหลายสิบสูตร อีกทั้งยังมีความสามารถในการ แกะสลักผักอีกด้วย
บั้นปลายชีวิตท่านย้ายบ้านจากหน้าวัดประยูรวงศ์ ไปอยู่ถนนเพชรบุรี ถนนสุขุมวิท และ ถนนเอกมัย ตามลำดับ จนในที่สุด ก่อนถึงอนิจกรรม ท่านได้ไปพำนัก ณ จังหวัดนครราชสีมา กับหลาน ของท่าน และถึงอนิจกรรมโดยกระทันหัน เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2508 สิริรวมอายุ ได้ 95 ปี ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศพ จนถึงพระราชเพลิง ณ เมรุวัด ประยุรวงศาวาส
![]() |
สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และ พระภรรยาเจ้า ใน รัชกาลที่ ๕ แก้ | ||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|