ฟรันซิสโก ฟรังโก
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟรันซิสโก เปาลีโน เอร์เมเนคิลโด เตโอดูโล ฟรังโก อี บาอามอนเด ซัลกาโด ปาร์โด (Francisco Paulino Hermenegildo Teódulo Franco y Bahamonde Salgado Pardo) หรือที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ จอมพลฟรันซิสโก ฟรังโก และ เอลโกว์ดีโย ที่แปลว่า "ผู้นำ" (Francisco Franco หรือ El Coudillo มีชีวิตอยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2435-2518) เป็นจอมพลและผู้เผด็จการชาวสเปนในช่วงปี พ.ศ. 2479-2518 เกิดที่เมืองเอลเฟร์โรล กาลิเซีย จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยโตเลโดในปี พ.ศ. 2453 ได้รับประสบการณ์ในการรบเป็นอย่างมากในสงครามโมร็อกโก และได้เป็นนายพลที่หนุ่มที่สุดของประเทศสเปนเมื่อปี พ.ศ. 2469 ระหว่างสมัยสาธารณรัฐที่ 2 (พ.ศ. 2474-2479) ฟรังโกได้เป็นผู้นำทำการปราบปรามกบฏชาวเหมืองอัสตูเรียส และในปี พ.ศ. ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะเสนาธิการทหาร
ในปี พ.ศ. 2479 ฟรังโกได้เข้าร่วมสมรู้ร่วมคิดกับฝ่ายกบฏเพื่อต่อต้านรัฐบาล (เลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2479) และลงมือก่อการกบฏเมื่อวันที่ 17-18 กรกฎาคมซึ่งได้กลายเป็นชนวนสงครามกลางเมืองสเปน (พ.ศ. 2479-2482) ความเป็นผู้นำของฟรังโกในกองทัพอัฟริกาที่สำคัญยิ่งและความใกล้ชิดสนิทสนมกับอิตาลีและเยอรมนีซึ่งเข้าข้างฝ่ายกบฏ ทำให้ฟรังโกกลายเป็นนายพลผู้บัญชาการกองกำลังฝ่ายกบฏและเป็นประมุขประเทศของคณะรักชาติ ระหว่างเดือนตุลาคม 2479 - เมษายน 2482 ฟรังโกได้เป็นผู้นำคณะชาติสู่ชัยชนะ และนับแต่นั้นมาก็ได้วางรากฐานระบอบเผด็จการที่ยั่งยืนมาจนถึงวันสิ้นชีวิต
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ระยะแรกฟรังโกยืนอยู่ข้างเยอรมนีและอิตาลีในลักษณะผู้ไม่เข้าร่วมประกาศสงครามมากว่าการเป็นประเทศไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใด แต่อย่างไรก็ดี ในปี พ.ศ. 2486 ฟรังโกได้ปรับเปลี่ยนนโยบาย นำเอาสเปนออกจากการเกี่ยวข้องกับฝ่ายอักษะได้อย่างชาญฉลาด ระหว่าง พ.ศ. 2492-2502 การต่อต้านคอมมิวนิสต์ของฟรังโกทำให้สเปนสามารถเชื่อมสัมพันธไมตรีได้เป็นอย่างดีกับฝ่ายอำนาจตะวันตก
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองไกล ในปี พ.ศ. 2512 จอมพลฟรังโกได้ประกาศให้เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า หากตนสิ้นชีวิตไปแล้ว ขอให้มีการสถาปนาระบอบกษัตริย์ขึ้นมาใหม่โดยแต่งตั้งให้ "ฆวน คาร์ลอส" พระราชนัดดาของกษัตริย์องค์สุดท้ายขึ้นครองราชย์ และเพียงภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี จากการสิ้นชีวิตของฟรังโก ความเป็นเผด็จการของสเปนได้หายไปอย่างที่อาจเรียกได้เกือบไม่มีร่องรอยให้เห็น