เปรม ติณสูลานนท์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ | |
![]() |
|
นายกรัฐมนตรี คนที่ 16
|
|
ดำรงตำแหน่ง 3 มีนาคม พ.ศ. 2523 – 3 สิงหาคม พ.ศ. 2531 (ยุบสภา) |
|
สมัยก่อนหน้า | พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ |
---|---|
สมัยถัดไป | พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ |
|
|
เกิด | 26 สิงหาคม พ.ศ. 2463 ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา |
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2463 ที่จังหวัดสงขลา เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยคนที่ 16 ระหว่างปี พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2531และเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ครองอำนาจยาวนานที่สุด นักวิเคราะห์จากนิตยสารฟอร์บ กล่าวว่าพลเอกเปรมเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการเมืองไทย [1] ถูกเรียกขานกันขณะ ที่ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยว่า เตมีย์ใบ้ [2]
สารบัญ |
[แก้] ประวัติ
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นบุตรชายคนรองสุดท้อง จากจำนวน 6 คน ของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) ต้นตระกูลติณสูลานนท์ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา สงขลา ในหมายเลขประจำตัว 167 และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2480 จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเทคนิคทหารบก รุ่นที่ 5 สังกัดเหล่าทหารม้า (โรงเรียนนี้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2477 ต่อมาคือโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า)
พลเอกเปรม จบการศึกษาหลักสูตรพิเศษโรงเรียนเทคนิคทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2484 และเข้ารบในสงครามอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ที่ ปอยเปต กัมพูชา จากนั้นเข้าสังกัดกองทัพพายัพ ภายใต้การบังคับบัญชาของหลวงเสรีเริงฤทธิ์ ทำการรบในสงครามโลกครั้งที่สอง ระหว่าง พ.ศ. 2485-2488 ที่เชียงตุง
ภายหลังสงคราม พลเอกเปรมรับราชการอยู่ที่อุตรดิตถ์ และได้รับทุนไปศึกษาต่อที่โรงเรียนยานเกราะของกองทัพบกสหรัฐ ที่ ฟอร์ตน็อกซ์ มลรัฐเคนตักกี พร้อมกับพลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ และพลเอกวิจิตร สุขมาก เมื่อ พ.ศ. 2495 แล้วกลับมารับตำแหน่งรองผู้บัญชาการโรงเรียนยานเกราะ ต่อมามีการจัดตั้งโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ศูนย์การทหารม้า ที่จังหวัดสระบุรี
พลเอกเปรมได้รับพระบรมราชโองการเป็นผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า ยศพลตรี เมื่อ พ.ศ. 2511 และย้ายไปเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน ในปี พ.ศ. 2516 และเลื่อนเป็นแม่ทัพภาคทึ่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2517
[แก้] ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สมัยที่ 1 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 42 : 3 มีนาคม 2523 - 19 มีนาคม 2526
สมัยที่ 2 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 43 : 30 เมษายน 2526 - 4 สิงหาคม 2529
สมัยที่ 3 : คณะรัฐมนตรี คณะที่ 44 : 5 สิงหาคม 2529 - 3 สิงหาคม 2531
![]() |
[แก้] บทบาทในวิกฤตการณ์การเมืองและการรัฐประหาร พ.ศ. 2549
หลังการทำรัฐประหาร พ.ศ. 2549 มีคนส่วนหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่า พลเอกเปรม อาจมีความเกี่ยวข้องกับ วิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทย พ.ศ. 2548-2549 ที่นำไปสู่ รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 และในเวลาต่อมา ยังเป็นที่สงสัยอีกว่า พลเอกเปรม อาจมีบทบาทสำคัญ ในการเชิญ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมไปถึง การแต่งตั้ง คณะรัฐมนตรี และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ อีกด้วย จนกระทั่ง นักวิจารณ์บางคน ถึงกับกล่าวว่า สภาฯ ชุดนี้ เต็มไปด้วย "ลูกป๋า" [3][4][5]
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 พล.อ.เปรม ได้เดินทางไปเป็นองค์ปาฐก ในงานปาฐกถาพิเศษของ "นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้า ลาดกระบังนิทรรศ '49 เทิดไท้ 60 ปีครองราชย์พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย" ในช่วงหนึ่ง พลเอกเปรม ได้กล่าวชื่นชม พลเอกสุรยุทธ์ ความว่า "ทุกคนต้องรู้จัก มิสเตอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ เป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนคุณสุรยุทธ์นี่แหละ เขาเป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ตอนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่มาที่ไปก็คล้ายๆ คือไม่ได้เป็นผู้แทนราษฎร แต่เขาถูกเชิญให้มาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะควีนเห็นว่า เขาเป็นคนที่เหมาะสม คุณเชอร์ชิล ได้พูดเรื่องเสียสละ เป็นประโยคภาษาอังกฤษ ให้เห็นว่า จำเป็นต้องเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง นายกฯสุรยุทธ์ ของเราก็เหมือนกัน ที่มาเป็นนายกฯ โดยไม่ได้ตั้งใจมาเป็น แต่ก็เพื่อชาติบ้านเมือง" [6]
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า เป็นความเข้าใจผิดของพลเอกเปรม เพราะเชอร์ชิลเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยได้รับเลือกตั้งในเขต Epping ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Essex ตลอดช่วง ค.ศ. 1924-1945 (ซึ่งครอบคลุมช่วงที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรีในระหว่างสงคราม ในระหว่าง ค.ศ. 1940-1945) หลังจากนั้น ก็ได้รับเลือกตั้ง ในเขต Woodford ในช่วงปี ค.ศ. 1945-1964 [7] และประมุขของอังกฤษในขณะนั้น คือ กษัตริย์ (คิง) ไม่ใช่ ราชินี (ควีน) ตามที่พลเอกเปรมเข้าใจ ซึ่งก็คือ พระเจ้าจอร์จที่ 6 นั่นเอง
[แก้] ประวัติการรับราชการและราชการพิเศษ
- 2 พฤษภาคม 2481 ตำแหน่งนักเรียนเทคนิค
- 20 มกราคม 2484 ประจำกองรถรบ และได้รับพระราชทานยศ ว่าที่ ร้อยตรี
- 19 มิถุนายน 2484 ได้รับพระราชทานยศ ร้อยตรี
- 23 กรกฎาคม 2484 ประจำกรมรถรบ
- 1 กรกฎาคม 2485 ได้รับพระราชทานยศ ร้อยโท
- 1 กรกฎาคม 2487 ได้รับพระราชทานยศ ร้อยเอก
- 11 มกราคม 2488 เป็นหัวหน้ากองบังคับการ กรมรถรบ
- 13 มกราคม 2488 เป็นรองผู้บังคับกองร้อยที่ 2 กองพันที่ 1 กรมรถรบ
- 23 กรกฎาคม 2489 เป็นผู้บังคับกองร้อยที่ 2 กองพันที่ 1 กรมรถรบ
- 4 ธันวาคม 2489 เป็นนายกทหารฝึกหัดราชการโรงเรียนทหารม้า
- 29 สิงหาคม 2490 เป็นผู้บังคับกองร้อยที่ 2 กองพันที่ 1 กรมรถรบ
- 8 เมษายน 2492 รักษาราชการ รองผู้บังคับกองพันที่ 1 กรมรถรบ
- 1 กรกฎาคม 2492 ได้รับพระราชทานยศ พันตรี
- 18 กันยายน 2493 เป็นผู้บังคับกองร้อยที่ ๓ กองพันทหารม้าที่ 4
- 1 พฤษภาคม 2493 เป็นรองผู้บังคับกองพันที่ทหารม้าที่ 4
- 7 กรกฎาคม 2493 เป็นรองผู้บังคับการจงหวัดทหารอุตรดิตถ์
- 4 มิถุนายน 2495 เข้าศึกษาในโรงเรียนยานเกราะในความอำนวยการของหน่วย MAAG
- 1 เมษายน 2495 เป็นรองผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 7 และรองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์
- 24 เมษายน 2496 เป็นอาจารย์แผนยุทธวิธี กองการศึกษาโรงเรียนยานเกราะกองพลน้อยทหารม้า
- 8 มิถุนายน 2497 เป็นอาจารย์แผนกวิชาทหาร กองการศึกษาโรงเรียนยานเกราะกองพลน้อยทหารม้า
- 30 ธันวาคม 2497 เป็นผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 5 กรมทหารม้าที่ 2 และรักษาราชการอาจารย์แผนกวิชาทหาร กองศึกษา โรงเรียนยานเกราะ กองพลน้อยทหารม้า
- 23 พฤศจิกายน 2498 เป็นอาจารย์หัวหน้าแผนกวิชาทหาร กองการศึกษาโรงเรียนยานเกราะ กองทหารม้า และรักษาราชการผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 5 กรมทหารม้าที่ 2
- 16 ธันวาคม 2498 เป็นอาจารย์แผนกหัวหน้าวิชาทหาร กองศึกษาโรงเรียนยานเกราะ กองพลทหารม้า
- 1 มกราคม 2499 ได้รับพระราชทานยศ พันเอก
- 10 มีนาคม 2501 เป็นผู้ช่วยบัญชาการโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ศูนย์การทหารม้า
- 25 ธันวาคม 2501 เป็นรองผู้บัญชาการโรงเรียนทหารม้ายานเกราะ ศูนย์การทหารม้า
- 3 กุมภาพันธ์ 2502 มีพระบรมราชโองการโปรกเกล้าฯ ให้เป็นสมาชิกสภากร่างรัฐธรรมนูญ
- 13 มีนาคม 2506 เป็นรองผู้บังคับชาการโรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า
- 1 ตุลาคม 2506 เป็นรองผู้บัญชาการทหารม้า และรองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระบุรี
- 4 พฤษภาคม 2511 มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นวุฒิสภา
- 1 ตุลาคม 2511 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า และผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระบุรี ได้รับพระราชทานยศ พลตรี
- 4 เมษายน 2512 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองครักษ์เวร
- 18 กรกฎาคม 2512 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารม้าที่ ๑ รักษาพระองค์
- 16 ธันวาคม 2515 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- 1 ตุลาคม 2516 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2
- 1 ตุลาคม 2517 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 และได้รับพระราชทานยศ พลโท
- 1 ตุลาคม 2518 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นราชองครักษ์พิเศษ
- 1 ตุลาคม 2520 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ได้รับพระราชทานยศ พลเอก และเป็นรองผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ฝ่ายทหารบก
- 12 พฤศจิกายน 2520 ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
- 27 กรกฎาคม 2521 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์
- 1 ตุลาคม 2521 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็น ผู้บัญชาการทหารบก
- 4 ธันวาคม 2521 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
- 24 พฤษภาคม 2522 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในคณะรัฐบาลซึ่งมี พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี
- 12 กรกฎาคม 2522 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษารพรพองค์
- 15 กรกฎาคม 2523 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารที่ 21 รักษาพระองค์
- 3 มีนาคม 2523 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น นายกรัฐมนตรี
- 12 มีนาคม 2526 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่ง
- 1 พฤษภาคม 2526 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็น นายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งหลังจากประกาศยุบสภา เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2526
- 5 สิงหาคม 2529 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็น นายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งหลังจากประกาศยุบสภา เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2529
- 23 สิงหาคม 2531 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็น องคมนตรี
- 29 สิงหาคม 2531 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศยกย่อง เป็น “รัฐบุรุษ”
- 4 กันยายน 2541 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็น ประธานองคมนตรี
[แก้] ดูเพิ่ม
[แก้] อ้างอิง
- ↑ Former Thai PM Prem Tinsulanonda had key role in coup - analysts
- ↑ ถอดรหัสป๋า เปิดปาก 3 ฝ่ายต้องคุยกันเอง
- ↑ The Australian, Thailand's post-coup cabinet unveiled, 9 October 2006
- ↑ The Nation, NLA 'doesn' t represent' all of the people, 14 October 2006
- ↑ The Nation, Assembly will not play a major role, 14 October 2006
- ↑ ไทยรัฐ, “ป๋าเปรม” ยก “สุรยุทธ์” เทียบเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล
- ↑ Sir Winston Churchill: Biography: Chronological Summary
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- ชีวประวัติ พลเอกเปรม จาก เว็บสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
สมัยก่อนหน้า: พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ |
นายกรัฐมนตรีไทย (สมัยที่ {{{สมัยที่}}}) พ.ศ. 2523-พ.ศ. 2531 |
สมัยถัดไป: พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ |
วิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทย พ.ศ. 2548-2549 | |||||
เหตุการณ์หลัก | ลำดับเหตุการณ์ | บุคคลหลัก | |||
---|---|---|---|---|---|
จุดเริ่มต้น เหตุการณ์หลัก
การเลือกตั้ง |
|
สมุหพระกลาโหม | เจ้าพระยามหาเสนา (ปลี) · เจ้าพระยามหาเสนา (บุนนาค) · เจ้าพระยามหาเสนา (ปิ่น) · เจ้าพระยามหาเสนา (บุญมา) · เจ้าพระยาวรวงศาสุรศักดิ์ (แสง วงศาโรจน์) · เจ้าพระยามหาเสนา (สังข์) · เจ้าพระยามหาเสนา (น้อย) · สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) · สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) · เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) · เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (พุ่ม ศรีไชยันต์) |
เสนาบดีกระทรวง | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ · พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม · สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช · พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช · เจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (หม่อมราชวงศ์อรุณ ฉัตรกุล) · เจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (แย้ม ณ นคร) · สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต · พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช · พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร · พระยาราชวังสัน (ศรี กมลนาวิน) · พระยาประเสริฐสงคราม |
รัฐมนตรีว่าการ | พระยาราชวังสัน (ศรี กมลนาวิน) · พระยาประเสริฐสงคราม · แปลก พิบูลสงคราม · มังกร พรหมโยธี · หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต (พิชิต เกรียงศักดิ์พิชิต) · สินธุ์ กมลนาวิน · ชิต มั่นศิลป สินาดโยธารักษ์ · จิร วิชิตสงคราม · หลวงชาตินักรบ (ศุข ชาตินักรบ) · สฤษดิ์ ธนะรัชต์ · ถนอม กิตติขจร · ทวี จุลละทรัพย์ · ครวญ สุทธานินทร์ · ทวิช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา · ประมาณ อดิเรกสาร · กฤษณ์ สีวะรา · เสนีย์ ปราโมช · สงัด ชลออยู่ · เล็ก แนวมาลี · เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ · เปรม ติณสูลานนท์ · พะเนียง กานตรัตน์ · ชาติชาย ชุณหะวัณ · ชวลิต ยงใจยุทธ · ประพัฒน์ กฤษณะจันทร์ · สุจินดา คราประยูร · บรรจบ บุนนาค · วิจิตร สุขมาก · ชวน หลีกภัย · ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา · เชษฐา ฐานะจาโร · สัมพันธ์ บุญญานันทน์ · บุญรอด สมทัศน์ |
เจ้ากรมทหารบก | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ · เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) |
เจ้ากรมยุทธนาธิการ | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช · สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ · พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช · เจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (หม่อมราชวงศ์ อรุณ ฉัตรกุล) |
เสนาบดี กระทรวงกลาโหม | เจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (แย้ม ณ นคร) · สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต · พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช · พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร |
ผู้บัญชาการทหารบก | พระยาพหลพลพยุหเสนา · แปลก พิบูลสงคราม · พิชิต เกรียงศักดิ์พิชิต · อดุล อดุลเดชจรัส · ผิน ชุณหะวัณ · สฤษดิ์ ธนะรัชต์ · ถนอม กิตติขจร · ประภาส จารุเสถียร · กฤษณ์ สีวะรา · บุญชัย บำรุงพงศ์ · เสริม ณ นคร · เปรม ติณสูลานนท์ · ประยุทธ จารุมณี · อาทิตย์ กำลังเอก · ชวลิต ยงใจยุทธ · สุจินดา คราประยูร · อิสระพงศ์ หนุนภักดี · วิมล วงศ์วานิช · ประมณฑ์ ผลาสินธุ์ · เชษฐา ฐานะจาโร · สุรยุทธ์ จุลานนท์ · สมทัต อัตตะนันทน์ · ชัยสิทธิ์ ชินวัตร · ประวิตร วงษ์สุวรรณ · สนธิ บุญยรัตกลิน |
![]() |
เปรม ติณสูลานนท์ เป็นบทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ เปรม ติณสูลานนท์ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ |