จังหวัดอุตรดิตถ์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
จังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งอยู่ทางภาคเหนือตอนล่าง ได้ชื่อว่าเมืองแห่งพระแท่นศิลาอาสน์ ตำนานอันลึกลับ ของเมืองลับแล ดินแดนแห่งลางสาดหวานหอม และบ้านเกิดของพระยาพิชัยดาบหัก ขุนศึกคู่บารมีของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
อุตรดิตถ์เป็นเมืองก่อนประวัติศาสตร์ มีหลักฐานการค้นพบโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในสมัยอยุธยาและสมัยธนบุรี เมืองพิชัยและสวางคบุรีเป็นเมืองที่มีความสำคัญ ทางยุทธศาสตร์ เป็นเมืองหน้าด่านของกรุงศรีอยุธยา เดิมทีตัวเมืองอุตรดิตถ์เป็นเพียงตำบล ชื่อ "บางโพธิ์ท่าอิฐ" ขึ้นกับเมืองพิชัย แต่เพราะบางโพธิ์ท่าอิฐซึ่งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำน่านมีความเจริญรวดเร็ว เพราะเป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้า ดังนั้นในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ยกฐานะ ตำบลบางโพธิ์ท่าอิฐขึ้นเป็นเมือง "อุตรดิตถ์" ซึ่งมีความหมายว่าท่าน้ำแห่งทิศเหนือ แต่ยังคงขึ้นกับเมืองพิชัยอยู่ ต่อมาเมืองอุตรดิตถ์มีความเจริญขึ้นมากกว่าเมืองพิชัย เมืองอุตรดิตถ์จึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัด และเมืองพิชัยเลื่อนลงไปเป็นอำเภอหนึ่งขึ้นกับจังหวัดอุตรดิตถ์จนทุกวันนี้
สารบัญ |
[แก้] ประวัติ
ประวัติความเป็นมาต้นกำเนิดของจังหวัดอุตรดิตถ์ มีแหล่งกำเนิดมาจากท่าน้ำที่ สำคัญ 3 ท่า คือ ท่าเซา ท่าอิด และท่าโพธิ์ ซึ่งมีความสำคัญและเจริญรุ่ง เรืองมาแต่สมัยขอมปกครองท่าอิด ตั้งแต่ พ.ศ. 1400 คำว่า อุตรดิตถ์ เดิมเขียน เป็น อุตรดิษฐ์ (อุตร-เหนือ, ดิตถ์-ท่าน้ำ) เป็นคำที่ตั้งขึ้นในภายหลัง โดย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี พระราชทานนาม ไว้เมื่อ พ.ศ. 2395 แปลว่า ท่าเรือด้านทิศเหนือของสยามประเทศ
ท่าอิด คือ บริเวณท่าอิฐบนและท่าอิฐล่างปัจจุบัน
ท่าโพธิ์ คือ บริเวณวัดท่าถนน ตลาดบางโพ เนื่องจากมีต้นโพธิ์มาก มีคลองไหลผ่าน เรียกว่า คลองบางโพธิ์ (เพี้ยนมาเป็นบางโพ)
ท่าเซา คือ บริเวณตลาดท่าเสา (เซา เป็นภาษาเหนือ แปลว่า พักนอน)
ท่าอิด (อิด แปลว่า เหนื่อย) เนื่องจากการเดินทางมาค้าขายที่ท่าอิดทางเรือ และทางบกของจังหวัดภาคเหนือและภาคกลางสมัยโบราณ กว่าจะถึงก็เหนื่อย ท่าอิดเป็นท่าที่มีความเจริญทางการค้ามากกว่าทุกท่าในภาคเหนือ เป็นท่าจอดเรือ ค้าขายจากมณฑลภาคเหนือและภาคกลางรวมถึงเชียงตุง เชียงแสน หัวพันทั้งห้าทั้งหก สิบสองปันนา สิบสองจุไทย เดิมท่าอิดอยู่ในความปกครองของขอมตลอดจน ถึงสมัยสุโขทัย ขอมหมดอำนาจ ท่าอิดจึงเป็นเมืองท่าขึ้นอยู่กับเมืองทุ่งยั้ง อันเป็นเมืองหน้าด่านของสุโขทัย สมัยต่อมาแควน่านได้เปลี่ยนทางเดินทำให้หาดท่าอิดงอกออกไปทางตะวันออกมากทุก ๆ ปี ท่าอิดจึงเลื่อนตามลงไปเรื่อยๆ เรียกว่าหาดท่าอิดล่าง ท่าอิดเดิมเรียกว่าท่าอิดบน ท่าอิดล่างก็ยังคงเป็น ศูนย์การค้ามาตลอดจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชพระเจ้ากรุงธนบุรี ท่าอิดมีความเกี่ยวพัน กับเมืองพิชัยอย่างแน่นแฟ้น โดยใช้เป็นที่พักทุกครั้งที่กรีฑาทัพผ่านมา ละใช้เป็นที่รวบรวมทัพ ก่อนขึ้นตีหัวเมืองฝ่ายเหนือ และล้านนาสมัยก่อนนั้น การเดินทางและการขนส่งสินค้าเพื่อนำมาขายทางตอนเหนือ มีสะดวกอยู่ทางเดียวคือ ทางน้ำ แม่น้ำที่สามารถให้เรือสินค้า แม้กระทั่งเรือสำเภาขึ้นลงได้สะดวก ถึงภาคเหนือตอนล่างก็มีแม่น้ำน่านเท่านั้น เรือสินค้าที่มาจากกรุงเทพฯ หรือกรุงศรีอยุธยา ก็จะขึ้นมาได้ถึงบางโพ ท่าอิฐ เท่านั้น เพราะเหนือขึ้นไป แม่น้ำจะตื้นเขิน และมีเกาะแก่งมาก ฉะนั้นตำบลบางโพ ท่าอิฐ จึงเป็นย่านการค้าที่สำคัญ
ในสมัยรัชกาลที่ 4 ท่าอิดยังคงมีฐานะย่านการค้าขึ้นต่อเมืองพิชัย สถาน ที่ราชการต่างๆ ตั้งอยู่ที่เมืองพิชัย แต่ย่านการค้าอยู่ที่ท่าอิด ดังนั้น คดีต่างๆ ที่เกิดขั้น รวมทั้งการเก็บภาษีอากรส่วนใหญ่จึงอยู่ที่ท่าอิด ราษฎรต้องลงไปเมืองพิชัยติดต่อกับส่วนราชการเป็นการไม่สะดวกต่อมาในปี พ.ศ. 2544 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสเมืองพิชัย ท่าอิด เมืองทุ่งยั้ง และเมืองลับแล ทรงเห็นว่าท่าอิด มีความเจริญ เป็นศูนย์ทางการค้าประกอบกับมีเมืองลับแลอยู่ใกล้ๆ เป็นเมืองรองลงไป การชำระคดีและการเรียกเก็บภาษีอากรสะดวกกว่าที่เมืองพิชัย จึงให้ย้ายเมืองพิชัยมา ตั้งที่บริเวณท่าอิด ส่วนเมืองพิชัยเดิมว่าเรียกว่า เมืองพิชัยเก่า
พ.ศ. 2446 พวกเงี้ยวก่อการจลาจลที่เมืองแพร่ โดยมีประกาหม่อง หัวหน้า เงี้ยวตั้งตนเป็นใหญ่ คบคิดกับเจ้าเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ จับพระยาสุรราชฤทธานนท์ ข้าหลวงประจำมณฑลกับข้าราชการไทย 38 คน ฆ่าแล้วยกทัพลงมา จะยึดท่าอิด กองทัพเมืองอุตรดิตถ์ โดยการนำของ พระยาศรีสุริยราชวรานุวัติ เป็นผู้บัญชาทัพ พระยาพิศาลคีรี (ทัพ) ข้าราชการเกษียณอายุแล้ว เป็นผู้คุม กองเสบียงส่ง โดยยกทัพไปตั้งรับพวกเงี้ยวที่ปางอ้อ ปางต้นผึ้ง พระยาศรีสุริยราชฯ จึงมอบหมายพระยาพิศาลคีรี เป็นผู้บัญชาการทัพแทน ทั้งนี้เนื่องจาก เป็นผู้มีอาวุโสและกรำศึกปราบฮ่อที่หลวงพระบางมามาก พระยาพิศาลคีรีได้สร้างเกียรติคุณให้กองทัพไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยการปราบทัพพวกเงี้ยวราบคาบ โดยฝ่ายไทยเสียชาวบ้านที่อาสารบเพียงคนเดียว กอรปกับเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ซึ่งเป็นแม่ทัพจากกรุงเทพยกมาช่วยเหลือ
พ.ศ. 2448 - 2451 ทางรถไฟได้เริ่มสร้างทางผ่านท่าโพธิ์ และท่าเซา ซึ่งขณะ นั้นส่วนใหญ่บริเวณนี้ยังเป็นป่าไผ่อยู่ไม่เจริญเหมือนท่าอิด กรมรถไฟสมัย นั้นจึงได้สร้างทางรถไฟแยกไปที่หาดท่าอิดล่าง ในปี พ.ศ. 2450 สมัยพระยาสุจริตรักษา (เชื้อ) เป็นเจ้าเมือง ต่อมาในปี พ.ศ. 2454 กรมรถไฟได้สร้าง สถานีรถไฟที่บางโพธิ์ และท่าเซา ทำให้ท่าโพธิ์และท่าเซาเจริญทางการค้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับที่ท่าอิดน้ำท่วมบ่อย การคมนาคมทางน้ำเริ่มลดความสำคัญลง การค้าที่ท่าอิดเริ่มซบเซา พ่อค้าเริ่มอพยพมาตั่งที่ท่าโพธิ์ และ ท่าเซาเพิ่มมากขึ้น ท่าอิดเมืองท่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ พ.ศ. 1400 ก็ มีอันดับสูญไปพร้อมทั้งความทรงจำ ความเจริญของท่าโพธิ์ (บางโพ) ท่าเซา ( ท่าเสา ) ค่อยๆ ทอรัศมีสีทองประดุจอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ ตราบเท่าทุกวันนี้
พ.ศ. 2458 สมัยรัชกาลที่ 6 จึงประกาศเปลี่ยนชื่อเมืองพิชัย เป็นเมือง อุตรดิตถ์ และ พ.ศ. 2495 จึงเปลี่ยนจากเมืองอุตรดิตถ์ มาเป็น จังหวัดอุตรดิตถ์
[แก้] สภาพภูมิศาสตร์
จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ใต้สุดของภาคเหนือ ทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดแพร่ ทิศตะวันออกติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีเขตแนวพรมแดน 120 กิโลเมตร ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดพิษณุโลก ทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดสุโขทัย มีพื้นที่ประมาณ 7,854 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและที่สูง ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือและทางตะวันออกของจังหวัด เทือกเขาเหล่านี้ต่อเนื่องมาจากจังหวัดแพร่ และจังหวัดน่าน
[แก้] หน่วยการปกครอง
การปกครองแบ่งออกเป็น 9 อำเภอ 67 ตำบล 562 หมู่บ้าน
![]() |
[แก้] อุทยานแห่งชาติ
- อุทยานแห่งชาติคลองตรอน
- อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
- อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน
[แก้] เขื่อน
[แก้] สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
[แก้] บุคคลสำคัญของจังหวัด
[แก้] สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
ดอกประดู่ (Pterocarpus indicus) ดอกไม้ประจำจังหวัด |
สัก (Tectona grandis) ต้นไม้ประจำจังหวัด |
- คำขวัญประจำจังหวัด: เหล็กน้ำพี้ลือเลื่อง เมืองลางสาดหวาน บ้านพระยาพิชัยดาบหัก ถิ่นสักใหญ่ของโลก
[แก้] รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์
1. พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร์ (โพ เนติโพธิ์) พ.ศ. 2444-2446
2. พระยาเทพาธิบดี (อิ่ม) พ.ศ. 2446-2449
3. พระยาสุจริตรักษา (เชื้อ) พ.ศ. 2449-2450
4. พระยาสุริยราชวราภัย (จร) พ.ศ. 2450-2454
5. พระยาวจีสัตยรักษ์ (ดิศ) พ.ศ. 2454-2459 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
6. พระยาพิษณุโลกบุรี (สวัสดิ์ มหากายี) ดำรงตำแหน่งครั้งแรก พ.ศ. 2459-2459 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
7. พระยาวโรดมภักดีศรีอุตรดิตถ์นคร (อั้น หงษนันท์) พ.ศ. 2459-2467 สงครามโลกครั้งที่1
8. พระยานครพระราม (สวัสดิ์ มหากายี) ดำรงตำแหน่งครั้งที่2 พ.ศ. 2467-2496
9. พระยาวิเศษฤาชัย (มล.เจริญ อิศรางกูร) พ.ศ. 2469-2471
10. พระยาวิเศษภักดี (ม.ร.ว.กมลนพวงษ์) พ.ศ. 2471-2474
11. พระยาอัธยาศัยวิสุทธิ์ (โชติ กนกมณี) พ.ศ. 2474-2476
12. พระประสงค์เกษมราษฎร์ (ชุ่ม) พ.ศ. 2476-2478
13. พระสนิทประชานันท์ (ทองอิน แสงสนิท) พ.ศ. 2479-2481
14. หลวงอุตรดิตถาภิบาล (เนื่อง ปาณิกบุตร) พ.ศ. 2481-2482 ช่วงสงครามโลกครั้งที่2
15. พระสมัครสโมสร (เสงี่ยม บุรณสมบูรณ์) พ.ศ. 2483-2485 ช่วงสงครามโลกครั้งที่2
16. ขุนพิเศษนครกิจ (ชุบ กลิ่นสุคนธ์) พ.ศ. 2486-2487 ช่วงสงครามโลกครั้งที่2
17. ขุนระดับคดี (ปัญญา รมยานนท์) พ.ศ. 2487-2488 ช่วงสงครามโลกครั้งที่2
18. ขุนอักษรสารสิทธิ์ (ละมัย สารสิทธิ์) พ.ศ. 2488-2490 ช่วงสงครามโลกครั้งที่2
19. ขุนสนิทประชาราษฎร์ (สนิท จันทร์ศัพท์) พ.ศ. 2490-2491
20. นายพ่วง สุวรรณรัฐ พ.ศ. 2491-2492
21. นายเกษม อุทยานิน พ.ศ. 2492-2492
22. ร.ท.ถวิล ระวังภัย พ.ศ. 2492-2493
23. ขุนจรรยาวิเศษ (เที่ยง บุญยนิตย์) พ.ศ. 2493-2495
24. ขุนรัฐวุฒิวิจารย์ (สุวงศ์ วัฎสิงห์) พ.ศ. 2495-2497
25. ขุนสนิทประชากร (กุหลาบ ศกรมูล) พ.ศ. 2497-2501
26. นายสง่า ศุขรัตน์ พ.ศ. 2501-2506
27. นายประกอบ ทรัพย์มณี พ.ศ. 2506-2509
28. พล.ต.ต.สามารถ วายวานนท์ พ.ศ. 2509-2510
29. นายเวทย์ นิจถาวร พ.ศ. 2510-2513
30. นายเวียง สาครสินธุ์ พ.ศ. 2513-2515
31. นายดิเรก โสตสถิตย์ พ.ศ. 2515-2516
32. นายวิจิน สัจจะะเวทะ พ.ศ. 2516-2518
33. พล.ต.ต.ศรีศักดิ์ ธรรมรักษ์ พ.ศ. 2518-2519
34. นายเลอเดช เจษฎาฉัตร พ.ศ. 2519-2522
35. นายกาจ รักษ์มณี พ.ศ. 2522-2526
36. นายธวัช มกรพงศ์ พ.ศ. 2526-2530
37. นายธวัชชัย สมสมาน พ.ศ. 2530-2531
38. นายสุพงศ์ ศรลัมพ์ พ.ศ. 2531-2532
39. นายศรีพงศ์ สระวาสี 1 มิ.ย. พ.ศ. 2532-30 ก.ย. พ.ศ. 2534
40. นายชัยวัฒน์ อรุโณทัยวิวัฒน์ 1 ต.ค. พ.ศ. 2534- 30 ก.ย. พ.ศ. 2536
41. นายสมบัติ สืบสมาน 5 ต.ค. พ.ศ. 2536- 30 มี.ค. พ.ศ. 2540
42. นายนิรัช วัจนะภูมิ 31 มี.ค. พ.ศ. 2540- 5 เม.ย. พ.ศ. 2541
43. นายชัยพร รัตนนาคะ 16 เม.ย. พ.ศ. 2541- 30 ก.ย.พ.ศ. 2542
44. นายสิทธิพร เกียรติศิริโรจน์ 1 ต.ค. พ.ศ. 2542- 30 ก.ย. พ.ศ. 2545
45. นายปรีชา บุตรศรี 1 ต.ค. พ.ศ. 2545- 30 ก.ย. พ.ศ. 2548
46. ร.ต.ท.อุปฤทธิ์ ศรีจันทร์ 1 ต.ค. พ.ศ. 2548- 12 พ.ย. พ.ศ. 2549
47. นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ 13 พ.ย. พ.ศ. 2549 – ปัจจุบัน
[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจังหวัด
- ประวัติจังหวัดอุตรดิตถ์
- The Historical Background of The Uttaradit
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแมปส์
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย
อำเภอ ใน จังหวัดอุตรดิตถ์ | ![]() |
|||
---|---|---|---|---|
อำเภอ: |
เมืองอุตรดิตถ์ - ตรอน - ท่าปลา - น้ำปาด - ฟากท่า - บ้านโคก - พิชัย - ลับแล - ทองแสนขัน |
แก้ |
![]() |
จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นบทความเกี่ยวกับ จังหวัด อำเภอ หรือเขตการปกครองต่าง ๆ ของประเทศไทย ที่ยังไม่สมบูรณ์ ต้องการตรวจสอบ เพิ่มเนื้อหา หรือเพิ่มแหล่งอ้างอิง คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมหรือแก้ไข เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับ จังหวัดอุตรดิตถ์ ในภาษาอื่น อาจสามารถหาอ่านได้จากเมนู ภาษาอื่น ด้านซ้ายมือ หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถานีย่อย:ประเทศไทย |